“ให้เปล่า” วจีสั้นๆ แห่งหนทรงพลังณแหล่งหล้าการงาน

ครั้งหนึ่งนานมาแล้วขนมหวานเยลลี่ดำรงฐานะสรรพสิ่งแห่งหน “ไม้ค้ำลก” “ก่อชั่วตอนเย็น” และ “ค้าเปล่าคลอด” แม้ว่าเพราะคำดุ “ฟรี” เป็นเหตุให้เลี่ยนกลายเป็นแห่งนิยม สมัยเก่าใครแห่งอยากก่อเยลลี่จักต้องจับกากเนื้อใกล้ตระหนี่ใส่นางเลิ้ง ตั้งไฟทิ้งเก็บเศษหนึ่งส่วนสองทิวา รอปันออกคอลลาเจนประกอบด้วยโมเลกุลเล็กลง ความหนาแน่นลดลง หลังจากนั้นแยกตัวจากกากเนื้อประชิดตระหนี่ แม้ว่า Pearle Wait ช่างไม้ที่นึกดูบัวขาบร่างกายมาก่อธุเฝือหน้าที่ของกินคว้าลองถูกลองผิดกระเป๋าแห้งสามารถก่อฝุ่นเจลาตินสำเร็จรูปที่มีเหลือแหล่รสชาติกับประกอบด้วยวิธีการทำที่หวานคอแร้งขึ้นไปคว้า ด้วยกันเรียกเลี่ยนตวาด Jell-O จะอย่างไรก็ตามเลี่ยนก็ยังขายไม่ออก ก็เพราะว่าณชายคริสต์ศตวรรษแห่ง 19 เยลลี่เป็นของแปลกเกินไป ตราก็ไม่เคยได้ยิน มวลชนยังใช้คืนสูตรอาหารแบบวิคตอเรียน ลงความว่าทุกอย่างจำเป็นต้องถูกจ้าชนิดอย่างแจ่มแจ้ง แม้ว่าเยลลี่คนใหม่ตรงนี้ครอบครองปัดหรือว่าขนมกักคุมชะงัด ไม่มีผู้ใดบอกคว้า Wait กินเวลากว่า 2 พรรษามุมานะทำเอาประชาหันมาสนใจสินค้า เสียแต่ว่าไม่ได้เรื่อง เขาแล้วจึงทำการค้ายี่ห้อและทุกอย่างแจกกับดัก Francis Woodward นักธุรกิจณบุรีเดียวกันแม่นมั่นดุ Woodward มีหัวการขายยิ่งกว่า เสียแต่ว่าเขาก็ยังไม่สามารถค้าเจลาตินตัวตรงนี้ได้ จนคิดดูจักค้าเลี่ยนต่อให้ผู้สร้าง Jell-O แม้ว่าผู้ผลิตก็ไม่นึกดูจักจ่ายเลี่ยนเช่นกันปัญหาโย่งตกว่าผู้คนเขลาจักผลิตภัณฑ์ เขลาจักจับเจียรทำเช่นไร พอผู้บริโภคไม่ต้องการ ร้านรวงก็เปล่าสั่งซื้อ หลังจากนั้น Woodward ก็ขบคิดขึ้นไปได้มาแหวผู้ประดิษฐ์สินค้าชนิดองค์ประกอบหรือเครื่องปรุงอาหารต้นร่างบรรจุกล่องโดยมากแถมพกสูตรของกินวางที่กลัก นกเขาจึ่งเกิดไอเดียตวาดผิประกอบด้วยคู่มือการสร้าง Jell-O เช่นกันก็ควรจะทำเอาลูกค้าสนใจสมบูรณ์ แต่ Woodward ไม่ได้ใส่หนังสือแนะนำเจียรแห่งกล่อง นกเขาด้วยกันหัวโจกฝ่ายการตลาดออกอุบายจับจ่ายพื้นที่การโฆษณาณแมกกาซีน Ladies’ Home Journal และพิมพ์คู่มือปันออกพ่อค้าเร่กำหนดติดตัวเจียรตะเวนแบ่งแยกพ่อบ้านแม่เหย้าแม่เรือนติดตามนครปะปนกัน โปร่งแสงเมืองถ้าหากไม่มีสัมปทานแจกขายของต่างแดน ก็ไม่ยอมปันออกทุบประตูทำการค้าติดตามบ้าน เสียแต่ว่าการแจกจ่ายสูตรอาหารเปล่าถือเป็นการขายของ พ่อค้าเร่จึงทุบประตูเรือนด้วยกันแบ่งแยกคู่มือทำอาหารต้นร่างฟรีๆ ไม่มีสัญญาผูกมัด เมื่อระดมแบ่งแยกหนังสือแนะนำเจียรทั้งเมือง พ่อค้าเร่ก็ไปต่อเนื่องห้างร้านแห่งเมือง สั่งสอนมอบเข้าใจดุอีกไม่นานจักมีท้องทำการค้าอุดมสอบถามสินค้านวชาตที่ชื่อว่า “Jell-O” เจ้าของร้านแห่งหัวไวไม่น่าจะพลาดโอกาสดีที่งานซื้อเจลเขนเตรียมการวาง คราวนี้ Jell-O บรรทุกกล่องที่อาศัยท้ายรถพ่อค้าเร่ก็ริเริ่มเคลื่อน กับจากนั้นเหมือน 2 พรรษา มันตกเป็นสินค้าขายดีโดยเร็ว ประกอบด้วยยอดจำหน่ายระดับหนึ่งโล้นเหรียญตราทาบชันษา Jell-O กลายเป็นชื่อแห่งเรียกหาันเคยปากด้วยกันดำรงฐานะสินค้าแห่งจำเป็นเพื่อครอบครัวชาวอเมริกัน ================จดหมายที่พูดแม้ว่าเรื่อง “ให้เปล่า”=“ให้เปล่า” เป็นคำที่ทรงพลัง มันเปลี่ยนจิตวิทยาผู้ซื้อ กับทำให้สินค้าหรือว่าบริการเฉียดฉิวทุกอย่างแลดูน่าสนใจขึ้น Chris Anderson มองเห็นจรดอิทธิพลสรรพสิ่งวาจาแหวฟรีจึงนึกดูแหวพิสูจน์เข้าสืบค้นกักคุมหน่อยเหนือกว่า เหมือนกับแห่งเขาเคยชินทำความเข้าใจเรื่อง Long Tail กับ MakersChris Anderson เขียนหนังสือแห่งหนชื่อว่า Free : The Future of Radical Price เขาเป็นอดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Wired ยุคปัจจุบันดำรงฐานะ CEO สิ่งของ 3D Robotics ด้วยกันเป็นคนละ Chris Anderson จาก TED (ซึ่งเราจักพูดถึงเขาภายหลัง)ขนมจากงานวิจัย Anderson ได้มาแบ่ง “ให้เปล่า” เป็น 2 กาลเวลา ตกว่าให้เปล่าที่พระคริสต์ศตพรรษแห่ง 20 กับฟรีที่เยซูคริสต์ศตพรรษแห่ง 21 แต่ละเวลาต่างกันตรงที่ขับขี่เคลือนด้วยกรอบความคิดทางเศรษฐศาสตร์แห่งไม่เหมือนกันฟรีแห่งพระคริสต์ศตพรรษที่ 20 มวลชนใช้คืน “ให้เปล่า” ประการกลวิธีไม่ก็เครื่องใช้ไม้สอยการตลาด (แปลนแห่งหน Woodward ใช้) บางอย่างคงจะใช้วาจาแหวฟรี แม้ว่าบางทีไม่ไหวชี้เนื้อความตวาดฟรีจริง อาทิ “จ่าย 1 แถมพก 1” จริงๆ แล้วจากนั้นเลี่ยนถอดความตวาด ผิจับจ่าย 2 อันจักตัดทอนปันออก 50% หรือว่า “จัดส่งฟรี” อันที่จริงก็คงเพิ่มคุณประโยชน์ส่งเข้าไปแห่งราคาผลิตภัณฑ์จากนั้น เหตุฉะนี้คนในกาลเวลาก่อนจักมีความเห็นกับดักคำตวาดฟรีแตกต่างกับดักมนุชยุคปัจจุบัน เขาทั้งหลายหลงเชื่อแหว “ให้เปล่า” ไม่ไหวแปลดุไม่ต้องจ่ายทรัพย์สิน เพราะว่าไม่เร็วก็ช้าก็ต้องมีใครซักมนุชจำเป็นต้องจ่าย เมื่อไรก็ตามแห่งได้ยินถ้อยคำตวาด “ให้เปล่า” ก็แปลตวาดเตรียมการควักเงินได้พ้น เสียแต่ว่าให้เปล่าแห่งพระคริสต์ศตพรรษแห่งหน 21 ตรงนั้นเรียกดุให้เปล่าจริงๆ ฟรีณนัยเดี่ยวกับดัก ประกอบด้วยพี่เลี้ยงข้าวแจกใช้ฟรีๆ ให้เปล่าเวลาตรงนี้เปล่า่ใช่เพียงเครื่องใช้ไม้สอยการตลาด แม้ว่าเลี่ยนดำรงฐานะโมเดลเศรษฐวิทยาแปลนนวชาตเจียรพ้น Anderson กล่าวว่าฟรีต้นร่างใหม่มีพื้นฐานมาจากแนวคิดเศรษฐศาสตร์ต้นร่าง bit ไม่ใช่เช่นนั้น atom ดำรงฐานะปมเขื่องณสมัยดิจิทัลที่หลงเชื่อดุ ทุกอย่างเมื่อกลายเป็นซอฟต์แวร์แล้ว สุดท้ายจักต้องตกเป็นสรรพสิ่งให้เปล่า ทุนให้เปล่า และบ่อยครั้งรวมทั้งราคาขายแห่งหนให้เปล่าเช่นกัน “ฟรีครรลองใหม่กำลังกายสร้างตลาดธุรกิจค่าเหลือแหล่พันโล้นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ข้าวของพ่างทุกอย่างมีค่าพอๆ กับศูนย์เป็นครั้งแรกณประวัติส่วนตัวศาสตร์” Anderson รายงานพื้นแผ่นดินเศรษฐกิจแบบ bit เป็นไปตาม “กฎสิ่งของแขกมัวร์” (Moore’s Laws) ที่บอกดุ ชิปวงจรรวมที่ทำการที่คณะประมวลผลสรรพสิ่งคอมพิวเตอร์จักมีประโยชน์ถูกยอมอรรธทุกๆ 2 ชันษา แต่ราคาแบนด์วิดท์ด้วยกันคณะเรียกเก็บประกาศจะถูกลงณอัตราความเร็วกว่าตรงนั้นอีก อินเตอร์เน็ตนำทั่ว 3 อย่างมาชุมนุมจึงอุดมเป็นเหตุให้สนนราคาถูกลงตรากตรำไปอีก ผลคือสนนราคาผลิตภัณฑ์และบริการณพื้นแผ่นดินออนไลน์จึ่งลดน้อยลงแท้ณอัตรายิ่งกว่าเปอร์เซ็นต์ 50 รายปีเหตุฉะนี้ความโน้มเอียงทุนการก่อการงานออนไลน์จึงเจียรณวันเวย์ห้ามคือ จรแห่งหนศูนย์กลาง (0)เช่นกันเค้าโครงความคิดกับความเอนเอียงกระนี้ผู้คนแห่งหนโตลงมากับดักพื้นโลกออนไลน์แล้วจึงเชื่อตวาดให้เปล่าก็ลงความว่าฟรีจริงๆ ปราศจากทรัพย์สินเข้าพัวพัน แลดูอย่าง Google ตกลง ดีฉันใช้บริการสืบหาสรรพสิ่ง Google กันทุกเมื่อเชื่อวันแต่ไม่เคยมีใบเสร็จคิดบัญชีค่าบริการสืบหาเกินซักหน การประกอบด้วยฟรีหนทางใหม่ทำให้เกิดโมเดลการงานแบบนวชาตกับทำให้เกิดตลาดนวชาตแห่งเมื่อแจกฟรีหลังจากนั้นจะได้สินน้ำใจอื่นยิ่งไปกว่านั้นเงินสดFreemium ดำรงฐานะโมเดลการงานต้นตอขึ้นที่ยุคใหม่ Venture Capitalist ชนิด Fred Wilson ครอบครองคนคิดดูถ้อยคำนี้ขึ้นลงมา การงานแห่งใช้โมเดลตรงนี้จักจำแนกบริการดำรงฐานะแหล่เวอร์ชั่น ตั้งแต่เวอร์ชั่นให้เปล่าจรจรดเวอร์ชั่นมีราคาหรือเวอร์ชั่น premium กับแม่นมั่นแหวเวอร์ชั่น premium จักใช้งานได้มาโคนดุเวอร์ชั่นฟรี ธุรกิจแห่งหนใช้คืนโมเดลนี้มักจะมีของซื้อของขายครอบครองดิจิทัล พวกเขาคาดหวังดุจักมีผู้ซื้อ 5% ที่จะใช้คืนเวอร์ชั่นแปลนซื้อสมบัติเพื่อมาชดใช้โสหุ้ยเพื่อผู้ใช้บริการทั้งเพ หรือก็คือครั้งใดก็ตามมีผู้บริโภคจับจ่ายเวอร์ชั่น premium 1 มนุช จะมีผู้บริโภคอื่นๆอีก 19 คนแห่งได้มาใช้สินค้านั้นณเวอร์ชั่นธรรมดาแห่งหนแจกฟรี แห่งหนเจ้าตำรับผลิตภัณฑ์หรือว่าบริการสามารถปันออกฟรีเต็มที่ตรงนี้ก็เพราะว่าพืชพันธุ์ุทนทานการให้บริการผู้บริโภค 19 มนุชนั้นถดถอยเฉียดฉิวดำรงฐานะแกนกลางจนพางปราศจากทุน มาที่งานปันออกให้เปล่าเพราะเปล่าหวังจำนวนเงินกันมั่ง Anderson เรียกเหตุดังนี้ดุตลาดแห่งไม่ใช้คืนทรัพย์สิน ก็เพราะว่าเพื่อบางท่านเหตุสมบัติมิได้ข้อสำคัญที่สุดของเขาทั้งหลาย หลังจากนั้นเขาทั้งหลายมุ่งหวังอย่างไรกักคุมล่ะ ที่จริงๆความต้องการปัจเจกชนไม่เช่นเดียวกันGoogle ประกอบด้วยบริการสืบหาแจกอิฉันใช้ได้ฟรีๆ ครั้งใดก็ตามเธอสืบเสาะข่าวสารพอๆ กับตวาดเจ้าเอ็งได้มาลุ้น Google ปรับปรุงความสามารถสิ่งของโปรแกรมโฆษณาการมอบตรงๆกลุ่มจุดหมาย มากมายคุณชดใช้ คุณก็อุดมสร้างมูลค่าเพิ่มมอบอายุมากบริการพวกนั้น ไม่ก็จะพูดอีกชนิดก็ได้ตวาด Google ไม่ต้องการทรัพย์สินค่านายหน้าขนมจากคุณ เสียแต่ว่าพวกเขามุ่งหวังข้อมูลของเธอ ผู้ประพันธ์แห่งสลักเนื้อความต่างๆลงณแบบหล่อหรือเว็บไซต์แห่งพ้นไปโฆษณามองดูเผินๆแล้วเทียบเท่าเขาไม่ไหวอย่างไรเกิน เสียแต่ว่าแน่ๆจากนั้นครั้งใดก็ตามคุณเข้าอ่านสิ่งแห่งหนนกเขาเขียน ก็นับว่าเธอปันออก “เรื่องสนอารมณ์ทางใจ” กับดักผู้ประพันธ์คนตรงนั้นหลังจากนั้น พอๆ กับตวาดคุณได้สนับสนุนปันออกผู้ประพันธ์ประกอบด้วย “ชื่อเสียงเรียงนามความเห็น” จำเริญด้วยกันเขาคงจะเอากิตติศัพท์เจียรใช้ประโยชน์ได้มา เป็นต้นว่า ควานหาธุรกิจพอกพูน ควานวงจรข่าย หาผู้บริโภค หรือไม่ก็อาจดำรงฐานะองค์กรสถานที่แจ๋ประชุมชั้นเอ็กซ์คลูภาษาซีฟแห่งหนหนึ่งที่เปิดโอกาสปันออกมวลชนมีสิทธิ์แลดูเนื้อความได้มาให้เปล่าๆผ่านมุข streaming video ก็พอให้ไอเดียของคนสถานที่ขึ้นลงมาพูดแพร่กระจายคลอดจากไปมอบกว้างไกลตกขอบ เป็นไปตามจุดหมายที่ว่า Ideas Worth Spreading===============อีกหนึ่ง Chris Anderson=Richard Wurman และ Harry Marks สมรู้ร่วมคิดริเริ่มตั้งขึ้น TED แห่งชันษา 1984 ในหนทางการงานรวมพลชั้นเอ็กซ์คลูภาษาซีฟ สถานที่เอ่ยปากครอบคลุม 3 เนื้อความคือว่า Technology (T) Entertainment (E) และ Design (D) เพราะว่าผู้ที่เข้าร่วมชุมพลจำเป็นจะต้องมีสิทธิ์อัญเชิญขนาดนั้น แถมอีกทั้งจำเป็นจะต้องชำรุดค่าจดทะเบียนสนนราคามากอีกทุกๆพรรษาจะมี CEO คนดังจากฮอลลีวูด สมัยโบราณผู้ปกครองสหรัฐจากไปร่วมตรวจฟังคนสถานที่มีชื่อเสียงชี้แจงแนวคิดสรรพสิ่งตนเอง เหตุยาวเหมือนคนละ 18 นาที ในปี 2000 Wurman ณคราว 65 ชันษาริเริ่มควานหาตัวผู้สืบกันมากับคว้าเจียรประสบกับดัก Chris Anderson นักประดิษฐ์งานเกี่ยวข้องตัวนำกับผู้ลุ่มหลงงานรวมพล TED พวกเขาเปลืองเวลาสนทนาห้ามถึงอนาคตกาลสิ่งของ TED จนท้ายที่สุด Wurman ก็เลือกสรร Anderson เป็นผู้สืบสกุล ฐานันดรของนกเขาคือว่า Curatorปี 2006 เป็นชันษาที่ TED ริเริ่มประกอบด้วยความเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนจากระเบียบเชิญแจกลงมาร่วมชุมพลเป็นระบบคุณประโยชน์ขาและผู้บอกรับเป็นสมาชิกจะครอบครองสิทธิพิเศษมากยิ่งขึ้นกระทั่งเดิมที และริเริ่มประกอบด้วยการนำ “ให้เปล่า” เข้าชดใช้Anderson ตกลงใจปันออก TED ประกอบด้วยการเผยแพร่วิดีโอเนื้อความการเอ่ยปากกับการพารายงานกระยาเลยเปลี่ยนมุขเว็บไซต์สิ่งของตนแจกมนุชเข้าดูแบบฟรี ๆ (www.ted.com/talks) แต่ว่าการมอบให้เปล่าดังนี้กลับมาเปล่าเป็นเหตุให้สนนราคาตั๋วน้อยลงแถมมนุษย์ที่หวังร่วมในธุรกิจหวนกลับเพิ่มพูนชำรุดอีก ชันษา 2006 แห่งหนดำรงฐานะชันษาแรกณการประกาศแพร่มุขออนไลน์ บัตรมีราคา 4,400 เหรียญตรา ชันษา 2007 สับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจดำรงฐานะแบบกบิลคนรายปี คุณค่าคนพรรษาละ 6,000 เหรียญตรา กับปัจจุบันคุณค่าขา Standard อยู่ที่ 10,000 เหรียญตรา หลังจากนั้นฉันใดคุณค่าขาจรดไม่ลดน้อยลงเกินล่ะ วิสัชนาตกว่า ประสบการณ์แห่งหนครอบครองต่างกัน อย่าเลอะเลือนว่าได้โอกาสสูงยิ่งนักเชียวที่เธอจะได้มาประสบคนเด่น คนเก่งในธุรกิจ TED คุณได้โอกาสเคียงด้วยกันสนทนากับดักมนุชเหล่านั้น อันนี้ครอบครองชิ้นที่เธอไม่ได้ยอมรับขนมจากการนั่งดูมุขออนไลน์ ยิ่งไปกว่านั้นตามเส้นทางณงานเจ้าเอ็งมีโอกาสจับต้องกับดักนวัตกรรมใหม่ๆครอบครองมนุชเริ่มแรกๆ ความจัดเจนแห่งหนเจ้าเอ็งจะได้ขนมจากการร่วมเป็นสิ่งจูงใจแห่งหนทำให้สนนราคาบัตรหรือว่าคุณค่าคนมีค่าดำเกิง แห่งพรรษา 2008 ชินมผู้ประมูลบัตรร่วมงาน TED Conference ณ eBay เพราะดับแข่งขันสถานที่ราคาสูงศักดิ์จรด 33,850 เครื่องราชอิสริยาภรณ์ รายได้ส่วนตรงนี้ละวางให้การกุศลกับผู้พิชิตประมูลอีกทั้งได้รับสิทธิพิเศษไปร่วมลิ้มกาแฟกับดัก Pierre Omidyar ผู้สร้าง eBay และรวมหม่ำข้าวเที่ยงกับดักผู้แสดงสาวอจี่ Meg Ryan ฉันคงจะเอ่ยปากคว้าจัดการมอบเข้าชมเนื้อหาให้เปล่าๆทางออนไลน์เป็นทีเด็ดหนึ่งสถานที่เรียกหาแหว max strategies ที่ Eric Schmidt อดีตกาล CEO สิ่งของ Google เคยกล่าวถึง “ไม่ว่าเจ้าเอ็งจะสร้างงานอะไรก็ตาม ขอกระจายของซื้อของขายไม่ก็บริการตรงนั้นปันออกกว้างขวางมอบจังเต็มที่เมื่อจะทำกันได้ พูดอีกอย่างก็ลงความว่า ในพอเธอไม่มีเงินลงทุนในงานกระจายสินค้าหรือไม่ก็บริการ ก็ควรขจรขจายสินค้ามอบทั่วทุกแห่งเจียรเสื่อมโทรมเกิน” Eric Schmidt ทูล งานพูดเพื่อที่จะส่งต่อกรอบความคิดหญิบกับดักการใช้คืนช่องทางออนไลน์ก็ทำให้เค้าโครงความคิดตรงนั้นแพร่กระจายในดวงสถานที่กว้างไกลขึ้นไป กิตติศัพท์สิ่งของผู้กล่าวกับ TED เพิ่มมากขึ้น หมู่ผู้ตั้งใจร่วมงานก็เพิ่มพูน ไม่มีเงิน TED ขยายตัวพร้อมด้วยการถลกยกพื้นมอบช่างเจรจาขึ้นไป อาทิเช่น TEDx เรื่องเดิมขึ้นเนื่องจากต่างๆ รวมทั้งแหลมทองพร้อมด้วย ===============ให้เปล่าครรลองใหม่เป็นเหตุให้ TED จากไปได้มาสวย เพราะ Anderson เคยพูดเอาไว้ว่า TED มิใช่แท่นปล่อยของ และมากมายมนุษย์ที่ขึ้นไปลงมาพูดก็ไม่ได้เหล่เนื้อความเงินตราเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่าพวกเขาตั้งใจโฆษณาชวนเชื่อกรอบความคิดของพวกเขา มันคือว่าตลาดสถานที่ไม่ชดใช้เงินตรา ฟรีหนทางนวชาตทำให้โอกาสเปิดกว้างขึ้น เจ้าเอ็งคงจะสร้างบางสิ่งบางอย่างแห่งหนดูไม่น่าจะคว้ากระไรทดแทน กับมนุษย์ที่ผ่านมาเห็นก็บ่งบอกว่าก่อไปฉันใดเปลืองเวลาหาไม่ ก็อย่าเพิ่งจะก้อง ขอทบทวนภาษาสิ่งของ Chris Anderson (ผู้แต่ง Free) เอาไว้ว่า “อันที่จริงจากนั้นฟรีไม่ไหวแปลความว่าปราศจากผลประโยชน์ ก็แค่หนทางแห่งหนเนื้อตัวสินค้าจะนำไปสู่ผลกำไรนั้นมิใช่คนช่วยตรงๆ” ===============ประกาศอ้างอิง :รายงาน Free : The Future of a Radical Pricehttps://www.ted.com/about/our-organization/history-of-ted https://www.tedมันสมองcom/about/our-organization Saucy ThoughtsfreemiumTEDTalkschris andersonNew Business Model