Smart City คือ ‘บุรีหัวไว’ หรือ ‘เมืองอัจฉริยะ’ ณความตระหนักเเบบเเปลเพ่งตรงติดสอยห้อยตามพจนานุกรม แต่ถ้อยคำแหว หัวไวหรือว่าอัจฉริยะนั้นในความประจักษ์แจ้งของเเต่เว้นมนุชคงไว้เเกระฉอกไม่เหมือนกันไป และคนแต่งหลงเชื่อตวาดสมมติว่าคว้าพิสูจน์ไปไปถามกลับประชากรสาธารณะดำรงได้วิสัชนาแห่งหนประกอบด้วยความคล้ายคลึงห้ามและไม่เหมือนกันไปติดสอยห้อยตามทิวทัศน์จำได้ของแต่ละบุคคล บ๊วยเเล้วคำแปลสิ่งของ Smart City สรรพสิ่งคุณเป็นอย่างไร? ถ้าหากถูกฟ้องไตร่ตรองสิ่งของผู้เขียนเอง ทัศนียภาพในขม่อมเกี่ยวกับ Smart City ในความทรงจำระยะเวลาเด็ก ตกว่า บุรีแห่งหนมีเทคโนโลยีทันสมัย ประกอบด้วยหุ่นสมองกลเดินไปๆ มาๆ ทุกอย่างในเมืองเป็นระบบอัตโนมัติ เหมือนณจอเงินหลักการ Action Sci-Fi แห่งเคยมองดูตอนลูก ซึ่งต้องคดีคิดก่อนได้มาฟัง ดร.นันท์ กล้าหาญไม่มีเงิน อธิบายจนได้ทำให้เรียบทัศนียภาพจำได้กับเเนวคิดงานก่อสร้าง Smart City ในชีวิตจริง แต่ก่อนที่จะไปสู่สาระของบทความคนแต่งขออธิบายจรดชื่อเสียงเรียงนามที่บอกตัวสิ่งของ ดร.นันท์ ก่อนก็เพราะว่าสมมติว่ารู้ความชี้ จะเข้าใจตวาดไฉนบุคคลนี้ถึงพอดีจังกับดักการพัฒนา Smart City เมืองประเทศไทย คำกล่าวตวาด “ดร. นน กล้าไม่มีเงิน” เปล่าใช่เเค่พางชื่อเสียงเรียงนามเเปลกโดดเด่นพางอย่างเดี่ยวแต่ก่อกำเนิดจากงานลงมือทำที่ทุกวี่ทุกวัน ตามที่แนวทาง “การดำรงชีวิตเชิงบวกลอง” สิ่งของเจ้าตัว ฐานเป้าจะทดลองแหว “ชีวิตินทรีย์เมือง” นั้นสมรรถมีประสิทธิภาพได้มากๆ เพราะแห่งหนไม่จำเป็นจำต้องดำรงฐานะการงานทาบสิ่งแวดล้อม เช่น งานไม่ก่อสร้างมลภาวะทางอากาศ เพราะงานดำเนินไปหวนกลับขนมจากที่อยู่ไปที่ทำงาน (7 กม.) กับไม่ครอบครองยานพาหนะส่วนตัว งานบริโภคเท่าที่กายมุ่งหวังแรงงานเท่านั้น (คาดคะเน วันเว้นครั้ง) การเปล่าใช้คืนดาลัด หลอดดูด ช้อนมนุช และถุงก๊อบแก๊บที่ชดใช้หนเดี่ยวแล้วทิ้งพ้น รวมถึงงานพกขวดธารา ช้อนส้อมตะเกียบแห่งหนสามารถล้างใช้หรือไม่่คว้าตลอดเวลา รวมไปถึง งานอ่านหนังสือเหตุนวชาตๆ ชันษาละ 100 เล่ม เพื่อจะส่งเสริมการงานของขมอง เป็นต้น บุคคลเเห่งเมืองแห่งควานได้มาชั่วจากนั้นณพื้นแผ่นดินสมัยใหม่กับแนวทางงานใช้ชีวิต “กล้ากระเป๋าแห้ง” แห่งหนมนุชเป็นส่วนใหญ่ “ไม่กล้าที่จะกระเป๋าแห้ง” ประทับใจผู้เขียนแปลนสุดๆๆ เมื่อรู้ความชี้สิ่งของชื่อที่มาจากแนวทางงานดำรงชีวิตแน่ๆจากนั้นคงไว้เปล่าเเปลญวนก สมมติว่าหนทางการพัฒนานครแยกออก “Smart” สรรพสิ่ง ดร.นันท์ จะต่างจากทิวภาพจำได้สรรพสิ่งมนุษย์ธารณะ Credit:ที่ทำการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)นิยาม Smart City แห่ง “มนุษย์” ตกว่าดารานำชายซีกเทคโนโลยีเป็นพระรองทิวภาพบุรีที่ ดร.นนท์ คว้าใช้ณการอธิบายคำกล่าวตวาด Smart City เห็นหนแรกคงไว้ตกใจตวาด จับทิวทัศน์ลงมาผิดรึเปล่านะ เพราะบุรีในทัศนียภาพมองไม่เห็นดู Smart ตรงไหนเลย? Credit:https://www.sidewalktorontoมันสมองcaดร.นนท์ ได้อธิบายข้อมูลของทิวภาพตวาดเป็นทัศนียภาพนครณประเทศเเคนาดา ซึ่งเป็นทิวภาพในจินตนาการสรรพสิ่ง Google Sidewalk Lab ที่ทำให้กับดัก Waterfront สรรพสิ่งเมือง Toronto ข้างหน้า หลังจาก เอาเทคโนโลยียอมเจียรทำให้บุรี “Smart” ขึ้นไป ซึ่งในช่วงปัจจุบันบุรีตรงนี้เป็นหลักอันดับแรกที่การพัฒนาแยกออกดำรงฐานะ Smart City หลังจากนั้นทิวทัศน์นี้เป็นเหตุให้เห็นดุ เมืองแห่งหนข้างนอกแลดูครอบครองนครปกติ เปล่ามีโดลนลานเหาะว่อนไปตลอดเมือง หรือหุ่นยนต์เดินไปๆ มาๆก็เป็นเมืองแห่งหน Smart ได้ นอกจากนี้ ถ้าทดลองมองดูจักมองเห็นจรดความสบายสรรพสิ่งงานดำเนินชีวิตของผู้คนณนคร เพราะประกอบด้วยเทคโนโลยีอยู่หลังฉาก ซึ่งการงานหลายชนิดณบุรีนี้ มีระบบระเบียบเทคโนโลยีเข้าสนับสนุนบริหารณข้างปะปนกัน อาทิ การพาข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มาชดใช้ณงานพินิจพิจารณา ว่าการระบบแตกต่าง ๆ อาทิ สัญญาณไฟจราจรแห่งหนมีประสิทธิภาพ มากขึ้นความคล่องเนื้อตัวของการจราจรเปลี่ยนงานวัดกับคำนวณผลรวมรถแห่งหนจำต้องวางธุระณแต่ละทางได้อย่างเที่ยงตรง ซึ่งทำให้มนุชประกอบด้วยกาลเวลาจำเริญจากการที่ไม่ต้องจรเปลืองเวลาอย่างไม่จำเป็นบนบานศาลกล่าวท้องถนน และใช้ชีวิตสบายดีๆ ที่พื้นที่ตากอากาศสาธารณะเหมือนกับในทัศนียภาพ จากการตัดทอนระยะเวลาดั้นด้นนี้ ทำเอามนุษย์ตัดสินใจลดน้อยลงในการหลีกเลี่ยงเส้นทางการจราจรติดขัด ลดความตึงเครียดจากการท่องเที่ยว เเละครั้นคนมีเวลาจำเริญ ชิ้นแห่งหนตามมาตกว่า งานกินเวลาสรรพสิ่งคนวงในริมความคิดสร้างสรรค์ที่คงจะตอบโจทย์โจทย์อื่นๆ หรือว่าปรับปรุงคุณลักษณะสรรพสิ่งเมืองแห่งหนสิงสถิตสิงสู่ ความการท่องเที่ยว สมมติว่าสามารถนำเทคโนโลยีลงมาว่าการได้มา คนก็จักมีความสุขจากงานประกอบด้วยเวลาจำเริญ สุดท้ายเเล้ว คำอธิบายสิ่งของนครอัจฉริยะแห่งหนเเท้แน่ๆตรงนั้นจำเป็นต้องตอบโจทย์ “งานใช้ชีวิตสิ่งของมนุษย์” จดเเม้ Smart City จะเป็นการจับเทคโนโลยีมาช่วยมนุช เสียแต่ว่าใช่แหวจักครอบครองชิ้นประธานที่สุด เพราะบ๊วยเเล้ว ถ้ามีเทคโนโลยีแห่งทันสมัยเสียแต่ว่าไม่ไหวซูบปัญหาชีวิตมนุษย์ ก็เหมือนกับเครื่องใช้ไม้สอยความสามารถรุ่งเรือง แต่ไม่สมรรถประยุกต์ใช้ที่การซูบโจทย์สิ่งของผู้รับบริการได้ ซึ่งในบางทีเครื่องอุปกรณ์ประสิทธิภาพดำเกิงตรงนี้ซ้ำจะเป็นปัญหาจรเสียอีก เช่น คุณค่าปกป้องที่สูง เป็นต้นสมมติว่าทดลองอุปมัยแจกเห็นภาพแปลนเชื่อมแหว ทำไม “มนุช” ถึงครอบครองเนื้อตัวเเปรสชาติำคัญสิ่งของ Smart City หามิได้การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างลำพัง ดำรงอยู่จำต้องย้อนกลับมาที่กระทู้ถามตวาด “ฉันต้องการสร้างเมืองอัจฉริยะเพื่ออะไหน” Credit: All Vaqarซึ่งเอ็ดที่กรณีศึกษาเกี่ยวกับงานก่อสร้าง “บุรีอัจฉริยะ” แห่งหน ดร.นันท์ ได้มาได้โอกาสดั้นด้นไปดูเเละมองเห็นแหวเป็นรูปเป็นร่างประการที่น่ารู้ ตกว่า เมือง Songdo ด้าวเกาหลีใต้ ซึ่งสะท้อนแจกมองเห็นตวาด ไฉน “มนุช” จรดเป็นจุดศูนย์กลางการพัฒนา เสียแต่ว่าชายทรวงก่อนแหว งานเสนอนครณคราวนี้ครอบครองเพียงกรณีศึกษา ซึ่งมีทั่วข้อดีด้วยกันข้อด้อย แต่คราวนี้คนแต่งตะขอหยิบข้อเสนอแนะจากงานตรวจฟัง ดร.นันท์ เฉพาะซีกแห่งเกี่ยวข้องกับดักข้อเสียหายสิ่งของการพัฒนามาเสนอแจกเห็นภาพเติบโตขนมจากการเสนอข้อเสนอแนะที่ว่า ไฉนนคร Songdo ที่มีชื่อเสียงดุดำรงฐานะ Smart City แห่งมีงานวางระบบโครงสร้างสรรพสิ่งทั่วเมืองเช่นกันเทคโนโลยีทันสมัยตกขอบ ซึ่งนครตรงนี้ รัฐบาลประเทศเกาหลีใช้นักค้นคว้าด้วยกันระยะเวลาถึง 10 ด้านดุ หมายรวมให้ทุนงบดุลที่งานก่อสร้างขึ้นรุ่งเรืองจด 4 หมื่นล้านเครื่องราชอิสริยาภรณ์สหรัฐ เสียแต่ว่าฉันใดมีมนุษย์อยู่เปล่าจรด 1 ที่ 4 สรรพสิ่งบุรีกับมนุษย์ธารณะหลักแหล่งแวะเยี่ยมนครนี้ เอ่ยปากครอบครองเสียงเดียวกันตวาดไม่แตกต่างไปขนมจาก “Ghost Town” ? สมมติว่ามองที่เเง่สิ่งของวัตถุปัจจัยการอยู่อาศัยสรรพสิ่งคนสาธารณะเพราะว่าไม่ได้เหล่ในหัวมุมอื่น ด็อกเตอร์นันท์ ได้มามอบเเง่ไตร่ตรองไว้ดุ การแห่งนครแห่งก้าวหน้าตรงนี้ประกอบด้วยคนเข้ามาอยู่ต่ำกว่าที่บอกล่วงหน้าเก็บ ก็เพราะว่าคนกลัวเข้าอยู่ เหตุผลหวานคอแร้งจังจนคาดไม่ถึงคือ นคร “Smart เกินเจียร” จนมนุษย์ปรับนิสัยไม่ทันการ และก่อกำเนิดเหตุระเเสิ่งกลมๆจากเทคโนโลยีสรรพสิ่งนครที่มีประสิทธิภาพดำเกิงแต่ว่าจนด้วยเกล้าเข้าสังคมและประเพณีนิยมสรรพสิ่งผู้อาศัย เป็นต้นว่า งานให้บริการทั่วไปในนครแห่งปราศจากคนให้บริการประการสิ้นเชิง ซึ่งแต่ว่าจักตรวจฟังดูดีณกลุ่มนักเทคโนโลยี กับเศรษฐวิทยา ประชาชนอีกมากยังเปล่าศาสนาเชนกับดัก “เรื่องนวชาต” ตรงนี้ และยังอยากแยกออกประกอบด้วยปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ซึ่งเพราะด้วยเขาทั้งหลายแล้วนั้น จัดดำรงฐานะ “เสน่ห์” สิ่งของเรื่องเป็นเมืองอยู่ หรือว่า การใช้ระบบกล้องวงจรปิดแปลนปัญญาประดิษฐ์ ณการควบคุมความประพฤติของผู้อาศัยณบุรี ซึ่งแต่จะแม่นยำ ด้วยกันเป็นธรรม เพราะกระบิลกลุ่มนี้พ้นไปอคติ บิดเบือน ไม่ก็ “ลืม” ประกาศไม่ไหว สมมติว่าผู้อยู่อาศัยอีกทั้งเห็นว่า สำเร็จนำเทคโนโลยีเข้ารับช่วงความเกี่ยวข้องระหว่างคน อาทิ ความเป็นมิตรบ้าน สอดส่องดูแลสอดส่องดูแลทั้งสองฝ่ายอีกด้วยความใฝ่ใจ ซึ่งกาลครั้งหนึ่งเคยทำงานละม้ายเป็น “กล้องยาเส้นวงจรดับ” ได้อย่างดีเยี่ยม แยกออกกับบุรี แปลนแห่งหนไม่ต้องใส่ถ่านไม้ หรือประกบกระแสไฟกักคุมเกินทำเอาเหลือบเห็นตวาด จดเเม้จะเป็นนครแห่งทั่วโลกมองว่าร่างกายสรรพสิ่งนครตรงนี้เป็นอาทิเเบบ Smart City ที่ประกอบด้วยตามยุคสมัยตลอดเมืองอย่างแท้จริงแต่สมมติว่าความทันสมัยไม่ไหวตอบปัญหาผู้อาศัยบ๊วย เทคโนโลยีที่มีณเมืองสมมติว่าพ้นไปเด็กรับใช้ นอกจากจะเหมือนประกอบด้วยเก็บเฉยเมยๆแล้ว ยังเป็นเหตุให้ผู้อยู่อาศัยรู้ตะขิดตะขวงจิตใจกลัวขนเข้าอยู่ที่นครนี้จรซะอีกโหล่หลังจากนั้นวิสัชนาสิ่งของคำถามที่ว่า “ดีฉันต้องการสร้างเมืองอัจฉริยะเพื่ออะไร” ก็ฉวัดเฉวียนกลับอวสานที่ว่า เพื่อที่จะสร้างความสะดวกสบายดีณการดำรงชีวิตที่เเต่เว้นทิวาสรรพสิ่งมนุชแต่ว่าซูบแจกตรงแน่ๆ คงไว้จำเป็นต้องบ่งบอกตวาด ก่อสร้างมอบมนุษย์เป็นที่ทุเลาณทั้งปวงข้าง เหตุฉะนี้ Smart City ถ้าหากโหยสร้างแยกออกประสบผลสำเร็จก็จำต้องริเริ่มอีกด้วย การซูบปัญหาชีวิตินทรีย์สรรพสิ่งผู้บริโภคตกว่า “มนุช”“ CEED ” จรดหามิได้เมล็ดพันธุ์ “SEED” แต่เจริญครอบครอง Smart City ที่ประสบผลสำเร็จได้Credit:สำนักงานจรรโลงเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)โดยณข้อคิดเห็นสิ่งของ ดร.นันท์ เห็นว่า สมมติว่าโหยสร้างกกการพัฒนา Smart City แจกทั่วถึงเราต้องเริ่มขนมจาก “CEED” พอให้การสร้างเมืองสมรรถซูบปัญหาการใช้ชีวิตสิ่งของคนได้แน่ๆ ซึ่งคำกล่าวตวาด “CEED” มาจากถ้อยคำดุ Convenience ก่อสร้างความคล่องสบายสิ่งของงานใช้ชีวิต ซึ่งเทคโนโลยีมีหน้าหัวนอนปลายตีนช่วยเป็นเหตุให้มนุษย์มีกาลเวลาเติบโต เช่น สนับสนุนแยกออกดีฉันดั้นด้นแจ้นขึ้น ใช้จ่ายได้มาหวานคอแร้งมากกว่าเริ่มแรก หมายรวม ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจำเริญ เป็นต้นEconomy สร้างระบบเศรษฐกิจแห่งหนดี ก่ออย่างไรแจกเมืองมีระบบระเบียบเศรษฐกิจที่ตอบปัญหาประชากร ก่อสร้างประโยชน์ประกบฐานรายได้ ด้วยกันการมีอาชีพ ทำให้เกิดความเสมอภาคที่การเข้าถึงโอกาสทางงานEnvironment ไม่ว่าเศรษฐกิจหรือว่าระบบอื่นๆ ดีเเค่ไหน อย่างไรมนุษย์ดำรงชีพบนพื้นโลกยังจำเป็นต้องหายใจถ้าฐานะอากาน้ำศเเย่ ลำธารปอน ทรัพยากรทางธรรมชาติจบ คนก็อยู่ไม่ได้ ดังนั้นแล้วการพัฒนา Smart City ต้องให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมเป็นระดับเริ่มแรกDecision-Making ทำยังไงแยกออกดีฉันประกอบด้วยประสิทธิภาพในการตกลงใจเติบโตด้วยงานใช้คืนประกาศ ซึ่งปกติมนุชทุกคนล้วนมีอคติ และข้อจำกัดสิ่งของกาย สร้างอย่างไรแจกดีฉัน Smart ขึ้นคว้าณระยะเวลาสิ่งห้วนอีกด้วย Data เหตุฉะนี้เทคโนโลยีเสมือนเลขานุการสิ่งของมนุช แต่ดีฉันจักสมรรถนำมาใช้แจกเกิดผลดีได้อย่างไรบ้างบ๊วย มนุชตกว่าเท้าหน้าลงมาใช้คืนแยกออกเกิดสมรรถนะ ถ้าหากโง่จะริเริ่มไอเดียการพัฒนาเช่นไรก็ลองนำ 4 ขัดสนนี้ไปเริ่มแรกไอเดียสิ่งของการพัฒนาเมืองดูก็เพราะว่าสมมติว่าสมรรถทำได้นครตรงนี้คงไว้เป็นพื้นแห่งณนึกคิดของคนในงานเข้าพักอาศัย เพราะว่าไม่ต้อง Smart ต้นร่างเทคโนโลยีเต็มบุรีก็อยู่ในกลุ่ม Smart City ได้มานะ! ครั้นประกอบด้วยไอเดียเเล้วดำรงอยู่จดกาลเวลาลงมือกระทำเสียแต่ว่าใครสร้างเว้น? อีกเอ็ดกระทู้ถามที่จะเป็นเหตุให้มองเห็นที่หัวมุมของการสร้าง Smart City แยกออกเกิดขึ้นแน่ๆและจีรัง ก็เพราะว่านครตกว่าเรื่องเปล่าเล็ก ดังนี้เปล่าใช่เเค่ใครคนใดคนหนึ่งแห่งจำต้องสร้างก็เพราะว่าเหตุสิ่งของนครตกว่าเรื่องสำคัญ ทำให้ระยะเวลานินทาจักพัฒนาไม่ก็สร้างนครคงไว้จำต้องกล่าวถึงการช่วยกันสิ่งของทุกท้องถิ่นด้านตั้งเเต่ ภาครัฐ ภาคเอกชน เจียรจวบจนถึงท้องที่กลางเมืองที่สิงสถิตที่เนื้อที่ตรงนั้น แหลมทองที่ส่วนของประเทศ การพัฒนา Smart City สิงสู่ณการปกครองสิ่งของที่ว่าการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) การพัฒนาที่กระทำงานโดยภาครัฐเป็นอีกหลักประธานแห่งเสริมแต่งน่าเชื่อถือรวมถึงการอนุเคราะห์องค์ประกอบพื้นฐานสรรพสิ่งการพัฒนานครในแต่ละปีกได้ชนิดถ้วนทั่วในหัวมุมของหลัก เทศบัญญัติ งบบัญชีแต่อย่างไรก็ตามขอบข่ายการงานของภาครัฐบาลมีข้อจำกัดกับอีกต่างหากฉีกข้อสำคัญสรรพสิ่งการพัฒนานคร เป็นต้นว่า เรื่องคร่ำหวอด, Solutions ที่จะมาซูบโจทย์ณแต่ละข้างของการพัฒนา Smart City เช่นกันงานมองเห็นจรดประเด็นสำคัญแห่งขาดหาย depa ไม่ก็ ภาครัฐแล้วจึงคืบหน้าเจริญนครร่วมกับ ภาคเอกชน อย่างพวกหุ้นส่วน กับ Startup ที่มีความตระหนักเทคโนโลยีหมายรวมสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ สิงสู่เสมออีกทั้งภาคเอกชนอีกทั้งมีความตระหนักในหัวมุมของการชกอดอยากปากแห้งการทำงานไปสู่งานก่อสร้างแบบอย่างงานเพื่อจะก่อให้เกิดความทนทานเพราะว่าสมมติว่าภาครัฐบาลอนุเคราะห์แยกออกก่อกำเนิดงานสร้างขึ้นไปลงมาเเล้วเสียแต่ว่าสิ่งแห่งหนก่อสร้างไม่สมรรถชกท้องแห้งเเละอยู่ได้มาด้วยตัวเองบ๊วยความทนทานจะไม่เกิด อาณาเขตบ๊วยแห่งหนจำเป็นตกว่า ท้องที่กลางเมือง ก็เพราะว่าการพัฒนา “นคร” ถ้าฉีกขาดสติปัญญาด้วยกันโจทย์ขนมจากผู้อาศัยการพัฒนาจะซูบโจทย์ วิถีชีวิตสรรพสิ่งมนุชมอบดีขึ้นชนิดถูกจุดคว้ายังไงด้วยเนื้อหาแห่งสูงสุดคงบอกเล่าที่เอ็ดบทความเปล่าสิ้นที่ทิวากาลลำพังจึงหิวเชิญผู้แห่งแยแสการพัฒนา Smart City ร่วมงาน Demo Day สรรพสิ่ง แผน depa Accelerator 2019 ในวันที่ 13 มีนาคม 2020 ซึ่งที่พรรษาตรงนี้มีหัวหัวเรื่องงานเเข่งขันแห่งหนต้องการควานหา Solutions จาก Startup มาสมรู้ร่วมคิดพัฒนา Smart City ของประเทศไทยแจกมีขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ทุกคนยังได้โอกาสลงมารวมสนับสนุนกันดุคณะไรจะดำรงฐานะ The Winner สรรพสิ่งโครงการ depa Accelerator 2019 อย่าลืมมาร่วมชูใจเเต่ละคณะกันหนอ!***สามารถจดทะเบียนเข้าร่วมงานให้เปล่า ได้ที่นี่ https://docsมันสมองgoogleมันสมองcom/forms/d/e/1FAIpQLSeyGe2luP9HXXjUwjJSRRDQis3j-2NK59qs75O3XibwdQHAgA/viewform(เรื่องเบ็ดเตล็ด กาลเวลา เเละแห่งหน ทีมงานจักกระทำส่งเรื่องเบ็ดเตล็ดเข้าไปแยกออกท่านตาม Email แห่งหนลงทะเบียนวาง)ขอขอบคุณประกาศขนมจาก sidewalktoronto.ca, citylab.com, forbes.com Saucy ThoughtsSmart Citydepa-accelerator-x-techsauce
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/ugc/uploads/2020/4/transportation-1572349_1920.jpg