ด้วยเหตุที่ สธคว้าข้อมูลเพิ่มพูนเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พุทธศักราช 2563 ความโรคติดเชื้อเชื้อโรคงัวโรทุ่งนา 2019 หรือความเจ็บไข้โคตัก 19 (COVID-19) ให้อาณาเขตนอกราชอาณาจักรครอบครองอาณาเขตติดเชื้อติดต่อภัย 4 ด้าวและเป็นพื้นแห่งที่มีการกระจัดกระจายสม่ำเสมอ 5 ประเทศตรงนั้น แบงค์ขอเกี่ยวข้อมูลจอดการให้บริการหมุนเวียน (เงินตรา)เงินตราต่างประเทศ ในขณะที่สาขากับที่ว่าการหมุนเวียน (เงินตรา)เงินตราต่างประเทศ (FX Booth) ทุกหัวระแหงทั่วราชอาณาจักรอย่างปราศจากขีดคั่นธนาคารกสิกรประเทศไทยนับว่าการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขที่วิสัยที่เป็นไปแพร่สะพัดสรรพสิ่งโรคติดต่อภัย เพื่อที่จะร่วมรักษา ตรวจการระวัง ด้วยกันควบคุมการกระจัดกระจายอย่างเข้มงวดดำรงฐานะหน้าที่พลเมือง (Civic Duty) แห่ง ควรปฏิบัติด้วยกันมีความสำคัญอย่างที่สุด ธนาคารจึ่งตะขอข่าวสารหยุดงานให้บริการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ทั้งที่สาขาด้วยกันที่ทำการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX Booth) ทุกหัวระแหงทั่วราชอาณาจักรประการไม่มีจำกัด ตั้งแต่สมัย 17.00 นาฬิกา ของรวิวารที่ 8 เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกระทั่งสถานการณ์งานระบาดสรรพสิ่งความเจ็บป่วยจะปรับเปลี่ยนจากไปในทางทุเลาประการมีความนัยประธานด้วยเหตุที่กระทรวงสาธารณสุขจักดำรงฐานะผู้กำหนดเพราะว่าแบงค์แยกออกพนักงานสถานที่ปฎิบัติธุรกิจสถานที่ที่ทำการปริวรรตเงินตราต่างประเทศ (FX Booth) ทุกแห่งที่จะทำปิดนี้ จองจำเองที่ที่อาศัย เป็นเวลา 14 วัน (Self -quarantine at home) ติดตามหลักกระทำของกรมจำกัดความเจ็บไข้ กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ที่ยุคปัจจุบันยังเปล่าพบเจ้าหน้าที่สรรพสิ่งแบงค์ติดโรคความเจ็บป่วย COVID-19 แต่อย่างใดการตัดสินใจที่ครั้งนี้ แบงค์คว้าแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้รู้ต่อจากนั้น คือกระทรวงสาธารณสุข เปลี่ยนกรมจำกัดความเจ็บป่วยธนาคารแห่งประเทศไทยบมจ. การท่าอากาศยานประเทศไทยหมวดกองกลางคิง เพาเวอร์ (ผู้ได้รับอนุญาตจัดการสั่งการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ในอาคาร คนโดยสารสนามบิน สุวรรณภูมิ ที่สูงนคร และภูเก็ต) Newskbankcovid-19money exchange