เมื่อเทคโนโลยีเจริญแบบสาวก้าวถลา ไม่มีเงินทำให้พฤติกรรมด้วยกันไลฟ์สไตล์สิ่งของลูกค้ากลายโดยเร็ว ด้วยกันแน่นอนตวาด แนวทางงานเจริญเช่นนี้จักมีขึ้นณเวลาแห่งหนสั้นยอมไม่รีบร้อน ตรวจได้จากแบรนด์แห่งหนต้องรอคอยปรับนิสัยกับพยายามสื่อสารกับดักลูกค้าสิงสู่ทุกเมื่อ ด้วยกระบวนการแห่งต่างๆนาๆมากยิ่งขึ้น งานก่อ Marketing 4.0 ที่เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเป็นสำคัญ คงไม่เพียงพออีกต่อไป จดสมัยจากนั้นที่เราน่าจะสาวเท้าไปสู่สมัย Marketing 5.0 เสียที นายไชยแห่งัฐ สัจจะปรราศีเมษฐ เอ็มดี AlchemistMarketing 5.0 คืออย่างไร ? ถ้าจะจำกัดความก็คือ “Age of personalized Omni-channel experiences” ซึ่งดำรงฐานะเทรนด์การตลาดแบบใหม่ที่มี Data เป็นเครื่องใช้ไม้สอยหลักสิ่งทรงพลังณงานสร้างความช่ำชองที่ตรงๆใจเฉพาะบุคคล ด้วยกันเพื่อการตลาดเวลาตรงนี้ “ประเด็นขี้” ก็เปรียบเสมือนบึงเลี่ยนที่รอคอยแจกผู้เชี่ยวชาญหรือว่าผู้มีความรู้ความประจักษ์แจ้งขุดใช้ประโยชน์ปันออกก่อเกิดประโยชน์นั่นเอง เหตุด้วยแบรนด์ ผิสมรรถนำ Data แห่งหนมีสิงสู่มาปรับใช้กับดักงานทำการตลาดคว้าถูกที่ไม่ผิดมุข ผลสรุปที่เกิดขึ้นก็ตกว่าความประจักษ์แจ้งผู้ซื้อแห่งไม่ไหวก่อกำเนิดจากการ Survey ถามเสียงเท่านั้น แม้ว่าครอบครอง Fact ที่จับต้องได้มาแน่ๆโดยมีพฤติกรรมสิ่งของผู้บริโภคครอบครองสิ่งยืนยันนั่นเอง องค์ประกอบสิ่งของการสร้าง Marketing 5.0 กอปรจรอีกด้วย 4 ด้าน- ส่วนจำเดิมตกว่า Omni-channel ตกว่างานใช้ Channel แห่งต่างๆนาๆเพื่อที่จะสื่อสารกับดักผู้บริโภค ทดลองนึกทิวภาพตามตวาดผิเราหวังจักสังสนทนากับมนุชหนึ่งมนุษย์ อิฉันสมรรถสั่งสนทนากับดักเขาเปลี่ยนทางไหนมั่ง เป็นต้นว่า อีเมล SMS หรือว่าไลน์ เมื่อนึกตามหลังจากนั้น จะผ่านพบดุไม่ไหวประกอบด้วยเพียงแค่หนึ่งไม่ก็คู่ช่องทาง ไม่ก็กำหนดเท่าแห่งออนไลน์หรืออฟไลน์เท่านั้น และแห่งแต่ละช่องทาง นกเขาก็ประกอบด้วยขบวนการตอบสนองแห่งหนแตกต่างกันเจียรเช่นกัน Channel แล้วจึงเป็นซีกแต่ต้นแห่งหนแบรนด์จะต้องแจ้ง- ส่วนลำดับที่สองคือ Personalized หรือ การเจาะควรส่วนบุคคล เพราะว่าณสมัย 5.0 แนวทางการติดต่อสื่อสารไม่ผิดเจริญปันออกซับซ้อนเพิ่มขึ้น ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น Message ขนมจากแบรนด์แล้วจึงจำเป็นต้องถูกปรับเปลี่ยนแจกเข้ากับความมุ่งมาดปรารถนาหรือว่าความชื่นชอบสรรพสิ่งมนุษย์ๆ ตรงนั้น ถอดความแหว ถ้าหากหวังติดต่อกับดักมนุษย์หนึ่งกล้อนมนุช แบรนด์คงจำเป็นต้อง Personalize Message ออกมาหนึ่งโล้นแนวทาง พอให้ซื่อกับดักความเอาใจใส่สิ่งของปัจเจกชน – ด้านลำดับที่สามคือ Automation หมายถึงการพาเทคโนโลยีเข้ามาจัดการชดเชยงานชดใช้ Man Hour (ครู่การงานดามมนุช) ครอบครองจำนวนมากหรือว่าพ้นความสามารถแห่งหนคนจะทำได้ อาทิเช่น งาน Personalize Message ตามแบบอย่างแห่งเสนอเจียร การออกแบบปันออกมีลักษณะเฉพาะบุคคลและจัดพิมพ์เนื้อความ 1 โล้นครรลองเพื่อจะส่งออกจร คงจะตกเป็นทุนมากมายทั่วด้านเวลา สนนราคาด้วยกันทรัพยากรคน ผิพ้นไปเครื่องอุปกรณ์รองรับแห่งดีด้วยกันมีประสิทธิภาพจังพอ ส่วนตรงนี้คือ Automation แห่งหนเทคโนโลยีจะเข้าลุ้นการทำงานสิ่งของมนุษย์ปันออกคล่องแคล่วขึ้นได้มา – ด้วยกันส่วนโหล่ลงความว่า Predictive คือ การทำการท้องตลาดแห่งหนใช้คืน Intelligence เข้าลุ้น ทำเอามิได้แค่รู้ผู้ซื้อแค่นั้น แต่ยังสามารถศึกษากับพยากรณ์ความประพฤติที่จะบังเกิดคว้าอย่างแม่นยำpจักเหลือบเห็นแหวทั้ง 4 ส่วนดังที่กล่าวมาแล้วกอปรกันดำรงฐานะ Marketing 5.0 เพราะว่าแต่ละด้านจะเข้าลุ้นจัดการกับใช้งาน Data แห่งหนแบรนด์ประกอบด้วยจ่ายเกิดผลดีสูงสุดณการกระทำตลาด (Data – Driven Marketing) ซึ่งเป็นชิ้นแห่งหนนักการตลาดปัจจุบันกำลังสอดส่ายเพิ่มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ ความคิดสร้างสรรค์ไม่ก็การติดต่อสื่อสารแห่งหนทรงพลังก็คงไม่พอเพียงอีกต่อไป ผิขาดงานก่อสร้าง Relationship ที่ระยะยาวกับผู้ซื้อการติดต่อสื่อสารอาจจะอวสานณหนเดี่ยว ไม่ได้ครอบครอง Authentic Relationship หรือความเกี่ยวพันเหนียวแน่นจริงจังที่จะทำเอาผู้บริโภคซาบซึ้ง เกิดความภักดีประกบแบรนด์ด้วยกันหิวกลับมาควานแบรนด์ใหม่ ดังนั้นการสร้าง CRM (Customer Relationship Management) แล้วจึงครอบครองอีกข้อสำคัญแห่งหนแบรนด์น่าก่อควบคู่จรกับการใช้ประโยชน์ขนมจาก DataAlchemist ไว้ใจที่การสร้าง Data – Driven Marketing แห่งสามารถตอบปัญหาทางการทำงานของผู้ซื้อได้มา อิฉันที่ฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับดัก Salesforce แพลตฟอร์มงานว่าการผู้ซื้อสัมพันธ์ (CRM) ชั้นเอ็ดสรรพสิ่งพื้นโลก จึงได้มามีโอกาสจับ Tools แห่งชื่อว่า Salesforce Marketing Cloud มาใช้คืนที่การทำ CRM จ่ายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตกว่างานเข้ามาก่อสร้าง Personalized Experience ระหว่างแบรนด์ด้วยกันผู้บริโภคปันออกประกอบด้วยเนื้อความเยี่ยมและเฉพาะเจาะจงที่แบบ 1:1 เพื่อให้ Message แห่งหนส่งออกจรตรงใจและซื่อกับดักความปรารถนาของผู้ซื้อนั่นเองเชื่อตวาด อ่านมาถึงตรงนี้หลังจากนั้น แหล่มนุษย์อาจจะไตร่ตรองแหว การก่อ Data-driven Marketing เป็นพ่างการนำ Tools แตกต่าง ๆ เข้ามาใช้ แม้ว่าจริง ๆ หลังจากนั้น ผิฉีกความเข้าใจและเป้าหมายสิ่งของงานชดใช้ Tools ก็อาจจะครอบครองเพียงงานเปลี่ยนรูปแบบการงานแค่นั้น ชิ้นสำคัญลงความว่าการนำ Tools ลงมาใช้คืนประการตรง รู้ด้วยกันรู้ Pain Point แหวปัญหาตกว่าจุดไร ด้วยกันเทคโนโลยีนั้น ๆ จะเข้าแก้ปัญหาคว้าอย่างไร การประกอบด้วยที่ปรึกษาชนิด Alchemist ที่จะสอดส่องการสื่อสารตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ประเดิมตั้งแต่ Data Strategy – Creativity – Implementation ด้วยกันทั้งหมดนี้ จักแข็งตัวช่วยสำคัญเหตุด้วยงานทำ Marketing สมัยใหม่จ่ายมีประสิทธิภาพและสามารถจรจรดเป้าหมายได้มาอย่างแห่งแบรนด์ตั้งเข็มวางนั่นเอง PR NewsDataMarketing 4.0Marketing 5.0Data – Driven Marketing
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/uploads/2019/03/Untitled-1.jpg