“Transformation” หรือว่าการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนปฏิบัติงานต่าง ๆ แยกออกทันประกบความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจำเป็นสุดกำลัง แห่งทำเอาหน่วยงานสมรรถฝ่าวงล้อม “Disruption” หรือว่าอันที่จะทำเอาการงานหยุดชะงัก ด้วยกัน “อยู่รอดไป” ได้มาแห่งกาลเวลาที่เทคโนโลยีต่าง ๆ หมายรวมพฤติกรรมผู้บริโภคไม่ตามเดิมอีกดามไป“SCG” จึ่งดำรงฐานะอีกหนึ่งหน่วยงานที่ได้รีบกลับรูปร่างตัวเอง ซึ่งนอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนเจียรเป็นผู้ส่งให้โซลูชันยาเรือและสิ่งใหม่สินค้า-บริการแห่งหนสมรรถตอบปัญหาความปรารถนาของลูกค้าที่มีอย่างต่างๆนาๆด้วยกันเปลี่ยนแปลงจรทุกเมื่อ จากเก่าก่อนแห่งหนดำรงฐานะแทบผู้สร้างผลิตภัณฑ์หลังจากนั้น “SCG” อีกต่างหากได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลแตกต่าง ๆ เป็นต้นว่า ระเบียบอัตโนมัติและเทคโนโลยีหุ่นสมองกล เข้าชดใช้ยกฐานะกระบวนการผลิตแห่งประกอบด้วยการหลอกลวงวนเวียนานและอีกต่างหากมีความสำคัญ แยกออกครอบครองโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ที่ช่วยทวีคูณความสามารถทางการแย่งชิง ก่อสร้างมูลค่าเพิ่มมอบกับผู้ซื้อ ตลอดจนลุ้นเจริญความสามารถของเจ้าหน้าที่ตามแนวอุตสาหกรรม 4.0 ได้มาอย่างดี เปลี่ยนแปลงหน่วยงานอีกด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล“อัตถ์พงศ์ อาศัยมโนคุณความดี” ผู้อำนวยการแผนการระเบียบอัตโนมัติและอุตสาหกรรม 4.0 SCG กล่าวว่า ตอน 5 ชันษาที่ผ่านมา SCG ได้มาปรับขั้นตอนทำงานและกระบวนการผลิต ภายใต้แนวทาง “ดิจิทัลทรานสฟอร์เมชันยาเรือ (Digital Transformation)” อีกด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลแตกต่าง ๆ ไม่ว่าจักดำรงฐานะ เทคโนโลยีเครื่องจักรกล (Mechanization) กบิลโดยอัตโนมัติ (Automation) เทคโนโลยีหุ่นสมองกล (Robotics) ตลอดจนเทคโนโลยีดิจิทัลอื่น ๆ ลงมาลุ้นเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจแห่งทุกขบวนการ เพื่อจะสนองตอบความต้องการของลูกค้า รวมทั้งยกระดับกระบวนการผลิตมอบครอบครองร.ง.อัจฉริยะ ด้วยกันนำไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 แห่งแห่งหนสุดๆ“ตัวอย่างแห่งหนประสบผลสำเร็จ ถือเอาว่า Smart Laboratory แห่งเป็นการจับเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาชดใช้ในห้องปฏิบัติการด้านการตรวจวัด เพื่อที่จะช่วยพินิจพิจารณาคุณภาพสิ่งของวัตถุดิบด้วยกันของซื้อของขายในวิธีการ ทำให้การควบคุมคุณภาพเป็นไปอย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพงอกงาม พอเปรียบเทียบกับการใช้มนุษย์แทบชนิดลำพัง”“หลังจากนั้น ถือเอาว่า Smart Maintenance แห่งหนเป็นระบบรุ่งเช้าปรามงานซ่อมบำรุงเครื่องจักรแปลนอัจฉริยะ ซึ่งนำเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things: IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence: AI) ด้วยกันเทคโนโลยีหุ่นยนต์ เข้ามาช่วยสืบสวนประสิทธิภาพกับสมรรถนะสรรพสิ่งเครื่องกลด้วยกันวัสดุต่าง ๆ ณโรงงาน โดยสามารถแจ้งถึงสถานภาพเครื่องจักรกลคว้าภาพร่างเรียลไทม์ ทำเอาพวกช่างซ่อมบำรุงวางแผนการดูแลเครื่องจักรคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังทำเอา SCG สมรรถขยายผลแห่งริมธุรกิจจรไปสู่งานให้บริการซ่อมบำรุงพิทักษ์เครื่องจักรกลแก่ผู้บริโภคข้างนอกได้อีกอีกด้วย”“สุดท้าย ลงความว่า Smart Dispatching แห่งหนเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้บริโภค โดยการนำเทคโนโลยีเครื่องจักรข้างกระบิลขนถ่ายสินค้าโดยอัตโนมัติ (Automatic Loading) มาสนับสนุนซื้อของซื้อของขายปูนซีเมนต์ให้ผู้บริโภคภาพร่างอัตโนมัติ เป็นเหตุให้ผู้ซื้อมีสิทธิ์สินค้าคล่องแคล่วด้วยกันแม่นยำขึ้นไป ซึ่ง SCG ได้นำเทคโนโลยีตรงนี้ลงมาปรับใช้กับดักร.ง.ปูนซีเมนต์ทุกหย่อมหญ้า ด้วยกันยังประกอบด้วยการเกี่ยวประกาศทุกห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ด้วยการพาเทคโนโลยีดิจิทัลลงมาชดใช้อย่างเป็นระบบ พอให้ทั้งหมดเห็นข่าวสารแห่งหนแน่นอนภาพร่างเดียวกัน จึงเกิดการปกครองบริหารประกาศแห่งทั้งปวง ๆ ขั้นตอน ด้วยกันสมรรถจับข่าวสารแห่งหนได้มาจรพินิจพิจารณาแยกออกก่อกำเนิดผลดีประกบงาน รวมทั้งตอบสนองความปรารถนาสิ่งของผู้บริโภคได้ดีขึ้นอีกอีกด้วย”ก่อสร้างโครงข่ายความร่วมแรงร่วมใจเพื่อจะงานเจริญชนิดยั่งยืน“อัตถะวงศ์” รายงานต่อว่าต่อขาน การพาเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าชดใช้ยกสถานภาพขั้นตอนทำและการผลิต หมายรวมการเชื่อมข้อมูลทุกกังวลเครื่องพันธนาการอุปาทานที่ผ่านมาตรงนั้น SCG ไม่ได้สร้างเพียงลำพังเฉพาะแห่งองค์กร เสียแต่ว่าอีกทั้งร่วมกับองค์กรยอดเยี่ยมภายนอก เพื่อจะขับเคลื่อนเป้าหมายดังที่กล่าวมาแล้วมอบบังเกิดผลเจริญกับคล่องแคล่วขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกับสถาบันการศึกษา ประการวิทยาลัยเทคโนโลยีพระสงฆ์จอมเกล้าพระนครเหนือ และสถาบันเทคโนโลยีพระสงฆ์จอมเกล้าเจ้าคุณนักรบลาดกระบัง แห่งการพัฒนาเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรม 4.0 เพราะด้วยเอสซีจี ขณะเมื่อภาคเอกชน SCG ยังคว้าร่วมกับขอโทษคมฟรอนโฮเฟอร์ (Fraunhofer) ด้าวเยอรมัน ซึ่งเป็นองค์กรการศึกษาค้นคว้าที่มีคดีชำนาญกับดำรงฐานะเท้าหน้าด้านอุตสาหกรรม 4.0 รวมทั้งร่วมกับไมโครซอฟท์ (Microsoft) ณการพาเทคโนโลยีด้านการเล่าเรียนของเครื่องกล (Machine Learning: ML) เข้าชดใช้แห่งเอสภาษาซีจีเช่นกัน กับปัจจุบัน SCG คว้าร่วมกับ “AIS” และ “มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.)” เพื่อจะพัฒนารถยนต์ยก (Forklift) ต้นแบบแห่งสมรรถจำกัดเปลี่ยนระยะไกลบนบานข่ายงาน 5G ได้โดยแห่งหนคนคุมไม่ต้องอยู่แห่งฝ่ายเดียวกับรถยนต์ แต่ว่าสมรรถจำกัดรถยนต์แยกออกขนข้าวของเครื่องใช้จากสิ่งกลมๆหนึ่งเจียรอีกทั้งอีกดวงแห่งมุ่งหวังได้ภาพร่างเรียลไทม์กับตรงเป๊ะ ซึ่งสมมติว่าการพัฒนาเป็นไป ก็จะลุ้นพอกพูนผลิตภัณฑ์ (Productivity) มอบกับดักเขตธุรกิจอุตสาหกรรม กับลุ้นตัดทอนการเสี่ยงณการงานสรรพสิ่งเจ้าหน้าที่เจริญบริบูรณ์ขึ้นไป“การช่วยกันแห่งการนำเทคโนโลยี 5G เข้าใช้คืนในภาคอุตสาหกรรมนี้ ก่อเกิดจากเค้าโครงความคิดและวิสัยทัศน์ที่ระดับเดียวกันสิ่งของทุกหน่วยงาน แห่งการก่นพัฒนากับยกฐานะอุตสาหกรรมในประเทศให้สมรรถประกวดได้ เช่นกันข้อดีสิ่งของเอสภาษาซีจีแห่งหนประกอบด้วยการพาเทคโนโลยีแตกต่าง ๆ เข้าใช้ปรับปรุงการงานด้วยกันอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ขณะเมื่อ AIS ก็นับว่าเป็นเท้าหน้าข้างการให้บริการเครือข่ายด้วยกันสิ่งใหม่ข้างดิจิทัล ด้านมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ก็ประกอบด้วยพนักงานและองค์การแห่งหนเชี่ยวชาญคดีอุตสาหกรรม 4.0”“ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงร่วมมือสืบหาโครงการต้นเค้าที่สมรรถนำเทคโนโลยี 5G ลงมาชดใช้ในภาคอุตสาหกรรมได้มาอย่างรวดเร็ว โน่นถือเอาว่าการพัฒนารถยนต์ยก (Forklift) ต้นเค้า แห่งหนสมรรถจำกัดกับขับเคลื่อนด้วยข่ายงาน 5G ขนมจากทางไกล ซึ่งได้ริเริ่มทำดำรงฐานะแห่งเริ่มแรกแห่งร.ง.ของเอสซีจีใน จ.สระบุรี ด้วยเหตุที่รถ Forklift ไม่ผิดประยุกต์ใช้ครอบครองจำนวนมากณโรงงานอุตสาหกรรม รวมหมดขนาดเล็กด้วยกันโย่ง เพื่อจะขนของเครื่องมือเครื่องใช้ด้วยกันผลิตภัณฑ์แตกต่าง ๆ สิงสู่เป็นประจำการ”“สิ่งที่ทำกันได้บริสุทธ์แห่งแผนการตรงนี้ ถือเอาว่า ความว่องแห่งการพัฒนา เพราะคณะทำงานของ SCG AIS ด้วยกันมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ชดใช้กาลเวลาเหมือน 1 เดือนแค่นั้น จนผลสรุปที่ออกมาประสบผลดีมาก กับเป็นไปตามจุดประสงค์ของการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้ณอุตสาหกรรม”เทคโนโลยี 5G กับดักการนำลงมาใช้เพื่อปรับปรุงมนุชกับงานข้างหน้าซีกการนำเจียรชกอดอยากปากแห้งกับเครื่องใช้ไม้สอยหรือเครื่องมือเครื่องใช้อื่น ๆ ณภาคอุตสาหกรรมนั้น “อรรถวงศ์สกุล” บอกดุ เครือข่าย 5G ประกอบด้วยคดีว่อง สนองตอบคว้าฉบับร่างเรียลไทม์ ทั้งยังประกอบด้วยความแม่นยำแห่งการส่งผ่านข้อมูลแห่งหนจำเป็นด้วยระเบียบอัตโนมัติระดับสูง จึงสมรรถใช้ประโยชน์ธุรกิจได้หลากหลาย ขึ้นอยู่โจทย์สรรพสิ่งธุรกิจไม่ก็ผู้ประกอบการ“SCG หลงเชื่อตวาดพลังกับจุดเด่นของโครงข่าย 5G รวมหมดณเหตุความไวและความมั่นคงนี้ จักสมรรถประยุกต์ใช้กับดักธุรกิจอื่น ๆ แห่งมีความเสี่ยงหรือว่าความเลวแห่งงานเข้าถึงเนื้อที่เจริญ ประการงานทำเหมืองที่มีใสพื้นที่เข้าถึงลำบาก ก็สามารถนำเทคโนโลยี 5G แห่งใช้คืนแห่งการควบคุมรถยนต์ยกต้นเค้าลงมาดัดแปลงกับการบังคับเครื่องจักรหนักที่ทำงานอยู่บนบานศาลกล่าวเหมืองได้ เพราะแห่งบุคลากรไม่จำเป็นต้องสิงสู่ณเนื้อที่ หรืองานแก้เตาเผาปูนซีเมนต์แห่งหนประกอบด้วยเนื้อที่แคบกับอับดินฟ้าอากาศ เทคโนโลยี 5G ก็สามารถควบคุมรถยนต์ที่ใช้คืนในการสกัดด้วยกันโค่นวัสดุทนความร้อนแห่งเตาเผาขนมจากทางไกลได้มา รวมถึงการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้คืนร่วมกับเทคโนโลยี IoT เพื่อที่จะรวบรวมด้วยกันพินิจพิจารณาข่าวสารแห่งกระบวนการผลิตแห่งหนประกอบด้วยจำนวนมาก ด้วยใช้คืนณการวางแผนเครื่องจักรกลกับการบริหารงานใช้ทรัพยากร ตลอดจนงานเพิ่มประสิทธิภาพการงานแห่งอาคารธุรกิจ”“บ๊วยสิ่งที่จะมีประโยชน์วันหน้าด้วยว่าแหล่ ๆ อุตสาหกรรม ถือเอาว่า การนำเทคโนโลยี 5G มาใช้คืนในการพัฒนาความสามารถของพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำลงมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีพื้นแผ่นดินเสมือนหนึ่งจริง (Virtual Reality: VR) แห่งหนทำเอาผู้เข้าไปสั่งสอนได้มา#ลองทดลองใช้ธุรกิจเครื่องไม้เครื่องมือหรือว่าเครื่องใช้ไม้สอยต่าง ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องสัญจรไม่ก็จรสิงสู่แห่งพื้นที่หน้าตาธุรกิจจริง ทำเอางานฝึกอบรมก่อกำเนิดความว่อง เจ้าหน้าที่สมรรถทำงานนวชาต ๆกับแจ้งคว้าในสมัยชิ้นห้วน เพื่อให้ก่อเกิดการพัฒนาพลังบุคลากรแห่งหนรองความเปลี่ยนแปลงแตกต่าง ๆ ได้ประการครันแน่ๆ” หมดด้วยกันตรงนี้นับว่าเป็นอีกเอ็ดตัวอย่างณการทแตกสแบบฟอร์มองค์กรของเอสภาษาซีจี เพื่อยกสถานภาพกระบวนการผลิตแยกออกครอบครองร.ง.อัจฉริยะ ควบคู่กับการเตรียมการความพร้อมและพัฒนาความสามารถณข้างเทคโนโลยีดิจิทัลแยกออกกับดักเจ้าหน้าที่ เปลี่ยนความร่วมมือกับองค์กรหัวกะทิ เพื่อให้การขับยกการพัฒนาสิ่งใหม่ด้วยกันเทคโนโลยีจรสู่การดำรงฐานะอุตสาหกรรม 4.0 ก่อให้เกิดประโยชน์ทาบงาน กับตอบสนองความมุ่งมาดปรารถนาสิ่งของผู้ซื้อได้อย่างทันท่วงทีถัดจาก PR News5GSCGDisruptionSmart Factorydigital-transformation