กล่าว Accenture Technology Vision 2020 ซึ่งเอคเซนเชอร์ (NYSE: ACN) จัดทำขึ้นไปเป็นประจำปีเพื่อจะคาดการณ์ล่วงหน้าความโน้มเอียงเสาข้างเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทต่อการงานณช่วง 3 พรรษาข้างหน้า คว้าชี้ให้เห็นแหว งานสถานที่หน่วยงานจักต่อสู้และประสบความสำเร็จได้ที่แหล่งหล้าแห่งหนประกอบด้วยดิจิทัลสิงสู่ทุกครั้งแห่งนั้น จะต้องเน้นข้อคิดใหม่ เพราะว่ามุ่งสถานที่การขับกรีธาความนิยมและหลักกิจธุระแบ่งออกกับชิ้นแห่งหนผู้ใช้และพนักงานจ่ายคุณลักษณะกับคาดแจกได้มาเสนอระบิปี 2020 นี้ใช้ชื่อว่า “แหล่งหล้าหลังกาลเวลาดิจิทัล หน่วยงานจะผ่านพ้นภัสสรวะ‘ความขัดแย้งด้านเทคนูนกิโลกรัมขยี้’ จากไปได้มาหรือเปล่า” (We, The Post-Digital People: Can your enterprise survive the ‘tech-clash’?) ก็เพราะว่าแต่มนุชจักรับเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้คืนในที่ชีวิตประจำวันมากขึ้นกระทั่งในที่โบราณกาล ทว่าความพากเพียรสิ่งของหน่วยงานณงานตอบสนองความมุ่งมาดกับความคาดหมายก็คงจะอีกทั้งเปล่าตอบปัญหาพวกนั้น ณยุคสถานที่กงสีความแข็งแรงสาวเท้าไปสู่ทศวรรษสถานที่การมอบบริการหรือว่าผลิตภัณฑ์ดิจิทัลแบ่งออกได้มาตามความคาดหมาย กับณเวลาแห่งหนเทคโนโลยีดิจิทัลประกอบด้วยสิงสู่ทุกที่ กิจธุระจำเป็นจะต้องประกอบด้วยสันกรอบความคิดใหม่กับนำวิถีทางใหม่เข้าใช้คืนข้อมูลแห่งเอคเซนเชอร์ได้มาจากการตรวจตราผู้บริหารปีกกิจธุระด้วยกันเทคโนโลยีกระทั่ง 6,000 คนทั่วโลกเพื่อทำเสนอ Technology Vision ฉบับนี้ พบว่า 83% ตกลงว่าเทคโนโลยีตกเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งณประสบการณ์ที่ชีวิตประจำวันของมนุชเจียรจากนั้น อีกปีกหนึ่ง งานวิจัยตรงนี้ได้มีการตรวจตราผู้ซื้อ 2,000 มนุชพร้อมด้วย อยู่ผลพบพานดุ 70% ประกอบด้วยกรณีประมาณการดุข้อความสัมพํนธ์สิ่งของคนกับเทคโนโลยีจะเลิศเพิ่มขึ้นเรื่องเข้มข้นด้วยกันเด่นชัดจำเริญที่ช่วง 3 ปีด้านเค้าหน้า“อีกด้วยความมั่นใจที่ศักยภาพของเทคโนโลยี มาก ๆ องค์กรตกลงก่อสร้างผลิตภัณฑ์ด้วยกันบริการปีกดิจิทัลขึ้นไปมา พ่างเพราะหน่วยงานมีความสามารถที่จะทำได้ลงคอ เสียแต่ว่าไม่ไหวนึกถึงผลกระทบกระเทือนดามมนุษย์ องค์กร และสังคม ซึ่งตามมาคราวหลัง” ผู้เป็นใหญ่นนทวัฒน์ กระพุ่มยกศรี เอ็มดี เอคนิกายเซนเชอร์ แหลมทอง ทูล “ขณะนี้ เราจักเหลือบเห็นสถานะที่เป็นอยู่ความไม่ลงรอยกันข้างเทคโนโลยีแห่งบังเกิดผลมาจากแรงกดดันระหว่างความคาดหวังสรรพสิ่งผู้ใช้ ศักยภาพสรรพสิ่งเทคโนโลยี และจุดหมายของการทำงาน ซึ่งทำให้เกิดจุดสับเปลี่ยนสำคัญสิ่งของภาวะผู้นำ แห่งหนต้องสับเปลี่ยนกรอบเค้าโครงความคิดจากงานก่อสร้างประสบการณ์ดิจิทัลเช่นเพราะว่า”เราก่อคว้า” เป็น“ทำยังไงแจกน่าไว้วางใจมั่นกับเชื่อกำหนด” แทนที่ เพราะว่าการหวนคิดปัจจัยเบื้องต้นของกิจธุระกับโมเดลด้านเทคโนโลยี เพื่อจะก่อสร้างฐานรากใหม่แห่งหนรองรับการแข่งขันกับงานเติบใหญ่”ทูลระบิลตรงนี้ยังแสดงให้เห็นแหว งานชดใช้โมเดลดั้งเดิมอาจจะมีการเสี่ยงที่การจรรังควานผู้บริโภคหรือไม่ก็ทำให้บุคลากรไม่อยากมีส่วนร่วม และอาจมีผลเจียรจดงานขีดคั่นศักยภาพสรรพสิ่งหน่วยงานในที่การคิดค้นของใหม่กับการเติบโตภายภาคหน้า ถึงอย่างไรก็ตาม สถานะที่เป็นอยู่ความขัดแย้งข้างเทคโนโลยีต้องคดีท้าทายแห่งหนแก้ไขได้มา เสนอ Technology Vision ได้เจาะจง 5 แนวโน้มเสาแห่งกองกลางต่าง ๆ จักต้องกำราบที่ระยะ 3 ปีตรงหน้า แห่งกงสีจะจำเป็นต้องแตกสลายการขัดกันด้านเทคโนโลยีและปรับปรุงความชื่นชอบกิจธุระณแนวทางใหม่ โดยส่วนหนึ่งส่วนใดจักขึ้นกับสายใยสถานที่กะทัดรัดเหนียวแน่นและเชื่อมั่นกักคุมมากยิ่งขึ้นระหว่างด้านสถานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ แนวโน้มเหล่านี้เป็นต้นว่า1. เอาใจช่วยแบ่งออกหมู่คนคัดมีประสบการณ์ณต้นฉบับของรูป (The I in Experience) องค์กรแตกต่าง ๆ ต้องดีไซน์ความช่ำชองเฉพาะตัว แห่งหนคล้องจองและสนับสนุนเพิ่มพูนการตัดสินใจด้วยกันช่วยเหลือจ่ายก่อเกิดหนทางของแต่ละบุคคลได้ ลุ้นเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายแห่งมีปฏิกริยาณชายสารภาพแจกดำรงฐานะเชิงรุก แบ่งออกเข้ามามีส่วนร่วมจำเริญ จำเป็นต้องสับเปลี่ยนความชำนาญการสื่อสารวันเวย์แห่งหนอาจทำเอามนุษย์รู้สึกไม่ได้ดังใจและปราศจากซีกรวม แจกตกเป็นความร่วมมือไปด้วยกันอย่างแท้จริง ซึ่งเบญจที่กระฉอกหรือไม่ก็ 85% สรรพสิ่งผู้บริหารกิจธุระด้วยกันไอทีสำนักงานตรวจตรงนั้น หลงเชื่อสั่งการชิงชัยแจกประสบผลสำเร็จณทศวรรษตรงนี้ จะต้องยกสถานภาพความเกี่ยวข้องสถานที่มีกับดักผู้บริโภค แบ่งออกกลายเป็นแนวร่วมหลักแหล่งรวมหัวกักคุม2. ทำซ้ำภาพรวมการงานใหมในแง่กิจธุระไปด้วยกันระหว่างมนุษย์และเอกระไอกระแอม(AI and Me) ปัญญาประดิษฐ์หรือเอกระไอกระแอม จะเข้าครอบครองปัจจัยแห่งมีบทบาทต่อการงานสิ่งของหมู่คน ยิ่งกว่าจักเป็นพางด้านเอื้อเฟื้อระบบอัตโนมัติ พอเอกระไอกระแอมมีความสามารถจำเริญ หน่วยงานต้องทบทวนการทำงานจ่ายเอไอกลายเป็นข้อสำคัญสถานที่เดินเครื่องการดำเนินงานต่าง ๆ โดยยึดหลักข้างความแน่ใจด้วยกันความโปร่งสบายแจ้งเป็นสำคัญ เดี๋ยวนี้ มีเช่น 37% ของหน่วยงานสถานที่เจาะจงว่า ได้ดีไซน์สัณฐานการทำงานโดยนึกถึงทั้งหมดท้องที่ซีก ด้วยกันเน้นแห่งหนมนุษย์ครอบครองจุดรวม เพื่อจะส่งเสริมแจกมนุชและเครื่องจักรกลหรือว่าเอไอกระทำกลมกลืนกันได้มาอย่างมีประสิทธิภาพ 3. ก้าวกระโดดสถานะ “การทดลองไม่ว่างเว้น” สถานที่กลายเป็นกิจ (The Dilemma of Smart Things) ข้อสมมติฐานดุใครถือสิทธิ์ผลิตผล กำลังวังชาถูกท้าทายเมื่อพื้นแผ่นดินไปสู่ระยะ “การทดลองไม่ว่างเว้น” (forever beta) องค์กรต่างมุ่งอธิบายผลิตภัณฑ์ยุคใหม่พร้อมด้วยงานใช้คืนประสบการณ์ดิจิทัล ความสามารถณงานจัดการกับปัญหาหรือไม่ก็ผู้ใช้งานที่สิ่งแวดล้อมแน่นอนได้ดี จึงครอบครองอันสถานที่ส่อว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆจักประสบความสำเร็จหรือเปล่า ซึ่งเฉียดฉิวตรีณสี่หรือ 74% สรรพสิ่งเทศมนตรีระบุแหว ผลิตผลด้วยกันบริการขององค์กร ที่ว่าการเชื่อมต่อห้ามได้มานั้น จักจำเป็นต้องประกอบด้วยการอัปเดตความสามารถประธานแตกต่าง ๆ อีกจังที่ช่วง 3 ปีข้างหน้า 4. หุ่นสมองกลที่สนามหญ้าการทำงานจริง คลายอาณาเขตการใช้งาน รวมทั้งความรับผิดชอบสิ่งของหน่วยงาน (Robots in the Wild) เทคโนโลยีหุ่นสมองกลหรือโรโบตำหนิกส์ จักไม่ไหวสิงสู่เท่าในที่กุดังหรือไม่ก็ณสายการผลิตอีกต่อไป พร้อมด้วยเทคโนโลยี 5G ที่จะทำเอาความเอนเอียงด้านนี้ก้าวหน้าแจ้นด้วยกันอุดมดีขึ้นเติบโต ทุกหน่วยงานจึ่งจำเป็นต้องทวนอนาคตกาลสรรพสิ่งตัวเองใหม่เพราะว่ามองผ่านแก้วตาปีกโรโบกล่าวโทษกส์ แต่ประดาเทศมนตรีก็ประกอบด้วยเสียงต่างกันณประเด็นเกี่ยวกับการยินยอมโตโบกล่าวโทษกส์สรรพสิ่งบุคลากร โดย 45% เหลือบเห็นดุบุคลากรจะเจอเรื่องท้าจ่ายจำเป็นต้องตรึกตรองค้นลงมือร่วมกับโตโบกล่าวโทษกส์ ระหว่างที่อีก 55% เชื่อว่าบุคลากรจักเสาะหากระทำสมรู้ร่วมคิดได้โดยไม่ยาก 5. ดีเอ็นเอเพื่อที่จะงานสร้างสรรค์ (Innovation DNA) เมื่อหน่วยงานสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีเลิศสถานที่เข้ามาสับเปลี่ยนพื้นแผ่นดิน เช่น เทคโนโลยีงานจัดเก็บข้อมูลร่วม (DLT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีความเป็นจริงขยาย (extended reality) กับการประมวลผลควอนตัม (quantum computing) เป็นอาทิ เทคโนโลยีเหล่านี้ ปฏิรูปขึ้นไปลงมาอย่างรวดเร็วติดสอยห้อยตามความมุ่งมาดสิ่งของตลาดที่ปัจจุบัน องค์กรจึ่งจำเป็นต้องขีดคั่นดีเอ็นเอเพื่อที่จะการคิดค้นสิ่งของตัวเองแห่งหนแตกต่างให้กำเนิดเจียร ซึ่งตรีณสี่หรือไม่ก็ 76% ของผู้บริหารก็หลงเชื่อว่า พนันข้างนวัตกรรมตรงนั้นสูงศักดิ์เชียว งานก่อทุกสิ่งแบ่งออก “ตอบปัญหา” จึ่งจำเป็นต้องชดใช้ขบวนการใหม่ ๆ ณงานสร้างสรรค์ พร้อมมีผู้ส่งเสริมและองค์การแห่งรวมหัวดำเนินการคว้าอย่างเหมาะควรณระบบนิเวศตรงนั้น ผู้แห่งมีบทบาทผลัดกันโลกหรือว่าดิสรัปเอียงอร์ ได้เข้ามาเติมเต็มระยะระหว่างความคาดหมายสรรพสิ่งหมู่คนและเกณฑ์ณช่วงปัจจุบันต่อจากนั้น เช่น Inrupt ภารกิจสตาร์โคนัพแห่งความแข็งแรงปรับปรุงสถาปัตยกรรมเกี่ยวโยงประกาศสถานที่เรียกหาแหว Solid ซึ่งดีไซน์ลงมาเพื่อให้แจกมนุษย์สามารถจำกัดประกาศสิ่งของตัวเองด้วยกันการพาเจียรใช้ได้มากขึ้น ด้วยการจัดเก็บด้วยกันใช้คืนข้อมูลตนเองผ่านเว็บต่าง ๆ อีกด้วยพ็อต (pod) ซึ่งดำรงฐานะเครื่องมือขนาดเล็ก มนุชจะตกลงใจคว้าว่าจะแบ่งออกพ็อตประดิษฐานที่ไหนกับจ่ายกองกลางหรือว่าเครื่องมือใดเข้าถึงพ็อตคว้าบ้าง จะเลิกหรือหักออกข่าวส่วนตัวคว้าทุกเวลา ยกสถานภาพความสามารถสรรพสิ่ง Inrupt เวอร์ชันแรกสถานที่ Tim Berners-Lee ผู้ก่อกำเนิดได้ถกเว็เรื่องี่ทุกคนเข้าถึงได้มาเอาไว้ ตัวอย่างตรงนี้แสดงให้เห็นจรดการเน้นย้ำคนครอบครองจุดรวม ที่จะจำกัดหลักได้แหวองค์กรใดจักสาวเท้าขึ้นไปมาดำรงฐานะผู้นำภายภาคหน้า ดังนี้ ตรงเวลา 20 ปีมาแล้วสถานที่เอคเซนเชอร์ได้พินิจพิจารณาสภาพแวดล้อมสิ่งขององค์กรต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เพื่อเสาะหาความโน้มเอียงโดดเด่นข้างเทคโนโลยีที่จะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแหล่งหล้ากิจธุระด้วยกันอุตสาหกรรมภายหน้าได้มา เพื่อข้อมูลทำให้ดีขึ้นเกี่ยวข้องกล่าว Technology Vision 2020 ติดตามได้มุข wwwมันสมองaccentureมันสมองcom/technologyvision หรือแกะรอยข้อคิดเห็นงานพูดที่กรณีนี้มุขยี่ตเตอร์แห่งหน #TechVision2020กระบวนการวิจัย เหตุด้วยร้างไปงานปี 2020 นี้ ประกอบด้วยงานวิจัยเพราะงานรวมเล่มข้อมูลจากคณะกรรมการกุนซือภายนอกสรรพสิ่งทูลเทคโนโลยี วิชั่น (Technology Vision External Advisory Board) สถานที่มีคนผู้มากความชำนาญกว่า 24 แกหลักแหล่งทั้งจากท้องถิ่นชาติฯ ด้วยกันเอกชน แวดวงวิชาการ หน่วยงานร่วมให้ทุน ด้วยกันบริษัทผู้สร้างทั้งหลาย ยิ่งไปกว่านี้ คณะทำงานของเทคโนโลยี วิชั่นได้มาสัมภาษณ์ผู้มีชื่อเสียงที่วงการเทคโนโลยีและผู้ชำนาญพิเศษในที่อุตสาหกรรม หมายรวมเทศมนตรีณเอคเซนเชอร์รวม 100 คน ในขณะเดียวกัน เอคนิกายเซนเชอร์ รีเสิร์ชยังได้มาทำการตรวจตราออนไลน์จรอีกต่างหากผู้บริหารการงานกับเทคโนโลยีสารสนเทศ 6,074 มนุชทั่วโลก เพื่อให้รู้ทรรศนะทาบการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ การตรวจตรานี้ได้ลุ้นแจกผ่านพบประเด็นด้วยกันวัตถุแห่งหนมีความหมายชั้นต้นไม้ ๆ ที่งานเลือกคัดชดใช้กับออกทุนด้านเทคโนโลยี ผู้ตอบต้นร่างวิเคราะห์ตลอดเป็นเทศมนตรีระดับอาวุโส (C-level) ด้วยกันกรรมาธิการสรรพสิ่งกองกลางต่าง ๆ ที่ 25 ด้าว ร่วม 21 อุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นการงานสถานที่มีเงินรายได้ทาบพรรษายิ่งกว่า 5 พันเลี่ยนตราประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การค้นคว้าวิจัยที่พรรษานี้ อีกทั้งได้ร่วมผลการสำรวจจากผู้ใช้ 2,000 คนในจีน ประเทศอินเดีย สหราชอาณาจักร และประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยเกี่ยวกับเอคนิกายเซนเชอร์เอคนิกายเซนเชอร์ ดำรงฐานะบริษัทที่ปรึกษาข้างที่มีความสำคัญในการรบ ให้คำปรึกษามุขการงาน ดิจิทัล การบริหารเทคโนโลยีและวัตรงานฉลาดสิ่งของพื้นแผ่นดิน กับด้วยความชำนาญ กิจธุระอย่างถ่องแท้ ผนวกกับดักพลังสถานที่ปราศจากข้อเสียณกระทั่ง 40 อุตสาหกรรมซึ่งถ้วนทั่วทั้งปวงสายงานสิ่งของการทำงาน พร้อมด้วยวงจรข่ายการให้บริการแห่งหนเทิ่งตกขอบณพื้นแผ่นดิน เป็นเหตุให้เอคเซนเชอร์สมรรถรวมหัวกับดักผู้ใช้ เชื่อมต่อการงานด้วยกันเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ยกฐานะองค์กรของผู้ซื้อจ่ายเป็นองค์กรสถานที่ประกอบด้วยอำนาจกับความสามารถดำเกิง สามารถก่อสร้างคุณภาพอันจิรังอายุมากผู้ถือหุ้นได้ ปัจจุบันเอคเซนเชอร์ มีบุคลากรเก็ง 505,000 คนวงในกระทั่ง 120 ด้าว เอคเซนเชอร์ตั้งหน้าปฏิรูปสิ่งใหม่สถานที่ลุ้นให้การดำเนินชีวิตและการงานประกอบด้วยชั้นเยี่ยมขึ้นไป ดูซิยละเอียดเพิ่มพูนได้ที่เว็บไซต์ www.accentureมันสมองcom Exec InsightVisionAccentureTechnologytrend-watching
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/uploads/2019/01/CEO-ITEL_1200x800-1024×683.jpg
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/uploads/2019/01/587-1024×683.jpg
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/uploads/2019/08/18-Knowledge-Station-1024×681.jpg