COVID-19 ตกเป็นวาระสำคัญระดับโลก สถานที่นำเหตุท้ามายังชีวิตินทรีย์มนุช การบังเกิดขึ้นไปของโรคนี้ได้มาเข้าสับเปลี่ยนเจตคติกับความประพฤติสิ่งของมนุช มีผลกระทบไปจดหน่วยงานที่จำเป็นจะต้องปรับตัวกำราบ ซึ่งไม่ใช่เพียงหลังจากงานแพร่เชื้อสรรพสิ่งไวรัสประการตรงนี้ ได้พ้นไปไปเมื่อทดลองจินตนาถึงตอนดวงจันทร์เดือนกันยายนที่เหตุการณ์กลับไปสู่ภาวะธรรมดาๆที่ดิฉันลงมาผ่านพบหน้าตากันได้ โคจรสัญจรได้ หาจับจ่ายใช้สอยสิ่งของปะปนกันคว้าสะดวก ๆ แต่ว่าหวนกลับประกอบด้วยต่างๆแปรไป วัวตัก-19 ทำเอาความชำนาญงานสิ่งของมนุชๆเอ็ดไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทสิ่งของลูกค้า บุคลากร ประชาราษฎร์ ด้วยกันมนุชมนุชเอ็ด เปลี่ยนไปชั่วนิรันดร์ ซึ่งคงจะได้มาเหลือบเห็นการเปลี่ยนแปลงปลายพฤติกรรมในวงกว้างเกิดขึ้น อะไรเผยที่จะเปลี่ยนไป การเปลี่ยนแปลงนั้นจักมีผลต่อการดีไซน์ ติดต่อ งานก่อสร้างด้วยกันสั่งการความจัดเจนแห่งหนประชากรมุ่งกับหวังคว้าเช่นไร คำตอบประกบกระทู้ถามเหล่านี้ดำรงอยู่ขึ้นอยู่ปฏิกิริยาสรรพสิ่งผู้คน เพราะแต่ละคน แต่ละครอบครัว แต่ละพวกสังคม ตลอดครอบครองอู่ที่ก่อให้เกิดงานคิดค้นของใหม่ ด้วยกันผันมรรคางานใช้ชีวิตแยกออกเปลี่ยนไปก่อเกิดกระแสพฤติกรรมใหม่ชิ้นแรกสถานที่ควรก่อ คือว่า การศึกษานัยด้านประสบการณ์เรื่องเดิมขึ้นขนมจากโคตัก-19 จึงจะเริ่มกำราบกับดักสถานการณ์คว้าเอคนิกายเซนเชอร์เล็งเห็นแนวโน้มที่ข้องแวะกับดักมนุษย์ในที่ 5 ด้านหลักที่จะมีผลกระทบดามความประพฤติในที่ช่วงปัจจุบันด้วยกันอนาคต กับเจียรกำหนดครรลองความชำนาญนวชาตสรรพสิ่งมนุช (New Human Experience) อีกที1. เงินลงทุนของความแน่ใจอันสถานที่เห็นกระจ่างขนมจากโคโพง-19 อย่างหนึ่ง ตกว่า คนอื่นหรือว่าที่อื่น คงจะกลายเป็นปากเหยี่ยวปากกาที่ดีฉันมองไม่เห็น การตกลงใจแหวจะก่อเช่นไรโดยเฉพาะอย่างยิ่งในข้อคิดเทิ่ง ๆ ตัวอย่างเช่นวันหยุด การจักไปใช้ชีวิตหรือว่าทำแห่งใดบริสุทธ์ เป็นเหตุให้ดิฉันจำต้องคิดมากมากขึ้น บางท่านก็จำเป็นต้องเลื่อนที่ปลงใจซื้อบางอย่างออกลูกไป ชิ้นกลุ่มนี้ทำให้คนอดทนต่อการเสี่ยงได้มาลดลง ด้วยกันมองเห็นค่าของอันแห่งหนคุ้นเคยมากขึ้นครั้นอันแห่งหนเจนสำคัญใจหวนกลับพัง ความนับถืออารมณ์ทางใจหรือไม่ก็ไว้วางใจแล้วก็ยิ่งสำคัญงอกงามกระทั่งเมื่อก่อนนี้ งานจักก่ออะไรแยกออกมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องประกอบด้วย “ตัวคูณความวางแปะจิตใจ” (trust multiplier) เข้ามาเสริม เพื่อจะลุ้นซ่อมแซมข้อความไว้ใจแยกออกหวนกลับโดยด่วน ดิฉันแล้วก็จักคว้าเหลือบเห็นงานเน้นก่อสร้างความมั่นใจณทุกช่องทาง งานเหล่ภาพริมบวกที่สามารถอธิบายและให้เหตุผลได้ จะครอบครองสิ่งสถานที่มนุษย์นับถือและยอมรับ ประสาเหล่านี้คงทำเอารูปพรรณของผลิตผลกับบริการพรีเมียมณทรรศนะสิ่งของดิฉัน กลาย2. ศตพรรษแห่งหนความเหมือนกับแน่ๆเช่นกันชั้นบังคับเค้าเดิมขึ้นไปพอโรคระบาดสิงสู่ในที่สถานะที่เป็นอยู่สถานที่ต่ำช้า รวมหมดงานผ่านระเบียบเหมือนกับจริงๆ (virtual working) งานกินและงานทำกิจกรรมเข้าสังคมต่าง ๆ อันกลุ่มนี้ล้วนแล้วส่งเสริมแบ่งออกประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงอีกมาก ทำเอามนุชทำกิจกรรมสารพัดอย่างได้มาณหมู่เหมือนกับ กับมีผลกระทบไม่ว่างเว้นมาถึงทางการสื่อสาร การเรียนรู้ การงาน งานสร้างธุรกรรม และการกิน ซึ่งส่งผลกับทั้งปวง ๆ มนุชจะมีคนที่เริ่มแรกไม่ไหวใช้เทคโนโลยีดิจิทัล มาริเริ่มชดใช้กันงอกงาม งานเข้าถึงโลกสถานที่ความจัดเจนเสมือนหนึ่งจึงจำเป็นจะต้องมีข้อจำกัดลดลง ผู้พิชิตจักดำรงฐานะคนสถานที่ได้ทดลองกับเสาะหาโอกาสอันควรงานสร้างสรรค์สรรพสิ่งประการแห่งหนสร้างบนบานศาลกล่าวโลกออนไลน์ 3. ทุกกิจธุระจักตกเป็นการงานเพื่อที่จะอนามัย ข้อความกังวลเกี่ยวข้องสุขภาพอนามัยสถานที่โอบล้อมจำเริญในที่ตอนวิกฤต จะไม่จางหายเจียรครั้นพ้นวิกฤตต่อจากนั้น แต่จะอุดมมากขึ้นความหมายมากขึ้น กิจธุระเกี่ยวพันการสอดส่องพลานามัยจะเจริญขึ้นไปมางอกงาม พร้อมทั้งมีโอกาสแบ่งออกทุกฝ่ายได้มาเข้าไปมีส่วนร่วม ทุก ๆ การงานจึงจำต้องแจ้งแหวตนจะมีบทบาทณระบบนิเวศใหม่ข้างพลานามัยได้มาอย่างไร จึงจะชนะใจของประชากรคว้า4. ใช้ชีวิตณพื้นที่ส่วนตัวการเช็ดฐานักเนื้อตัวในพื้นที่ ทำให้จำต้องกลับมาเจียรดำรงชีวิตที่ที่อยู่ส่วนมาก เมื่อวิกฤตสุกงอมยิ่งนัก แหล่ ๆ มนุช โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนลงมือ จะใช้เวลาสถานที่ที่อยู่ห้ามมากขึ้น จากนั้น ก็จักดำเนินชีวิตแบบนี้ถัดจากโดยรับทราบถึงคุณค่าด้วยกันความคล่องสบายขนมจากความชำนาญ ณสนนราคาสถานที่พรีเมียมขึ้นงานใช้สอยในที่ครัวเรือนจักมากขึ้น ทั้งที่เกี่ยวพันเนื้อตัวนิวาสสถานและงานทำของกินของใช้จองที่คฤหาสน์ ก็เพราะว่าผู้คนกินเวลาในที่ที่อยู่หรือไม่ก็พื้นที่ตัวเอง ไม่ได้สัญจรจากไปไหน ข้อคิดที่คนจักให้ความสำคัญ คือว่า งานดำเนินชีวิตในพื้นที่เฉพาะตัว (cocooning) พร้อมกับการเห็นจังหวะนวชาต ๆ เนื่องด้วยมนุชที่มีไอเดียสร้างสรรค์ ผู้พิชิตจะครอบครองมนุษย์สถานที่ย้ำโอกาสอันควรเกี่ยวพันการดำรงชีวิตสถานที่คฤหาสน์5. การเกลี่ยอำนาจบริหารสั่งการการแห่งหนมนุษย์จำเป็นจะต้องรอคอยตรวจฟังผู้ชำนาญพิเศษกับคำแนะนำสรรพสิ่งภาครัฐ ผสานกับการใช้อำนาจทางการว่าการในที่การแก้ไขปัญหางานแพร่เชื้อ ที่ประชาราษฎร์ทั้งหมดแตกต่างจำเป็นจะต้องประพฤติตาม เป็นเหตุให้สิทธิศูนย์กลางเข้ามามีน้ำหนักเต็มที่ เหตุฉะนี้ หากรัฐบาลสั่งการวิกฤตโดยทั่วไปได้อย่างเหมาะสม แนวการควบกำกับจากบนลงใต้แล้วจึงจะกลับอีก เสียแต่ว่าสมมติว่าว่าการไม่ไหว ก็จักตกเป็นแปลนใต้ขึ้นไปบนการเกลี่ยอำนาจบริหารสั่งการคงเกิดขึ้นทีหลังแห่งหนได้ประกอบด้วยงานกำหนดการโคจร งานหน่วงเหนี่ยวเอง ด้วยกันการสั่งการล็อกดาวน์โดยประเทศ คงประกอบด้วยงานตกลงบทบาทสิ่งของประเทศและองค์กรต่าง ๆ ในสังคมมากขึ้น รวมทั้งนัยสิ่งของการงานชนิดร่วมแรงร่วมใจ ดิฉันจะสร้างยังไงต่อไปทั้งปวงหน่วยงาน ไม่ว่าจักสิงสู่ที่ใดณแหล่งหล้า ไหมแหวจะประกอบด้วยฐานผู้ใช้อย่างไร น่าสนใจในการคาดคะเนความชำนาญอย่างต่อเนื่อง ด้วยความตระหนักอย่างถ่องแท้จรดพฤติกรรมที่แปรไป เมื่อหน่วยงานเข้าใจตวาดประสบการณ์นวชาตกลุ่มนี้ มีผลดามหมู่ผู้ใช้ของตนอย่างไร แล้วจึงน่าจะเตรียมรับมืออย่างมีประสิทธิภาพต่อไป เพราะว่าควร:1. ครอบครองคนฟังสถานที่บริสุทธ์ ยอมรับฟังผู้ใช้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เกี่ยวพันความมุ่งมาดปรารถนาด้วยกันหัวจิตหัวใจของเขาทั้งหลาย ครอบครองสิ่งประธาน ด้วยกันจักมากขึ้นความหมายยิ่งขึ้นข้างหน้า และเช่นเดียวกัน ความสามารถสิ่งขององค์กรในที่งานสนองตอบต่อความมุ่งมาดเหล่านี้ได้มาโดยเร็วด้วยกันเหมาะสม ก็จักกลายเป็นหัวใจสำคัญของการงานเช่นกัน2. ปรับข้อคิดเห็นความจัดเจนไม่ว่าจักอยู่ในสถานการณ์ไหน กรุณาต้องหวนนึกขั้นความจริงนวชาตสิ่งของผู้ใช้ ที่จะไม่มีขึ้นเพียงหนลำพัง การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นต่อเนื่องครั้นพฤติกรรมใหม่บาดตาขึ้น หน่วยงานจึงจำเป็นต้องมีระบบระเบียบสถานที่สอดสารภาพกักคุม รวมหมดฟังด้วยกันทำให้เสมอความชำนาญแห่งหนผู้บริโภคจะครอบครองมอบเป็นนิตย์เสาสรรพสิ่งงาน3. เรียนรู้ขนมจากผู้ใช้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ครัวเรือน หรือว่าหมู่สังคมไหน ก็ทั้งสิ้นเป็นอู่เกิดงานสร้างสรรค์หรือว่าสิ่งใหม่สถานที่ปรับมอบกับทางนวชาตณการดำเนินชีวิต ซึ่งหลายคนคว้าปรับพฤติกรรมงานใช้ชีวิตมอบกับโคโพง-19 เช่นกันงานคิดค้นเจริญชิ้นแตกต่าง ๆ เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ หน่วยงานควรเฝ้ามองพลังอำนาจงานสร้างสรรค์ด้วยกันสิ่งใหม่เหล่านั้น เพื่อนำมาชกอดเป็นคุณณการพัฒนาของใหม่เพราะด้วยงานถัดจาก 4. เก็งแบรนด์กับกิจธุระใหม่ หน่วยงานจะจำเป็นจะต้องหาญกล้าถามว่า แบรนด์หรือว่ากิจธุระนั้นสมน้ำสมเนื้อกับอนาคตกาลในที่มารคนวชาตไม่ก็ new normal ไหม พอแหล่งหล้าปรับพฤติกรรมได้จับหลักหลังจากนั้นหลังจากที่สถานะที่เป็นอยู่วิกฤตผ่านพ้นจากไป สรุปความได้ตวาดสูตรสำเร็จแห่งหนแนะนำด้วยว่าทั้งปวงหน่วยงาน คือว่า ยอมรับฟัง ปรับฝ่าย เรียนรู้ และคะเนนวชาต นั่นเอง(บทความอนุเคราะห์เพราะ เอคเซนเชอร์ แหลมทอง) Exec InsightBusinessAccentureNew NormalHuman Behaviour
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/ugc/uploads/2020/6/cover.png