Facebook คว้าทำตะขอวางแผนสนทนากับดักธนาคารแห่งประเทศไทยที่เนื้อความพงศ์เงินตราใหม่แห่งพละมีขึ้นอย่าง ‘Libra’ ด้วยเหตุที่ช่วงปัจจุบันประกอบด้วยผู้ใช้งาน Facebook กระทั่ง 50 โล้นคนในแหลมทอง เธอมิ่งขวัญบุตรสาว ไหว้วัน แห่ง จังหวัดอยุธยา เลขานุการผู้ว่าการ สายหลักระบบการจ่ายเงินด้วยกันเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย เล่าตวาด การนัดสั่งสนทนาจะประกอบด้วยรายการออกมาที่แจ้นๆ ตรงนี้ เพราะทางธนาคารชาติ ได้ทำการตระเตรียมคณะทำงานที่จะทำเรียนรู้ปีก “stablecoin” ของ Facebook และงานพิมพ์ทางการเงิน กับมุขคณะอีกต่างหากกอปรไปด้วยผู้ชำนาญพิเศษแห่งหลายปีกตั้งแต่ด้านบริการชำระเงินไปจนกระทั่งข้างกฏหมาย ล่าสุด Facebook คว้าเข้าพูดคุยกับหน่วยงานกำกับสอดส่องทั่วโลก รวมหมดธนาคารกลางสหรัฐกับธนาคารกลางสิงคโปร์ซึ่งแก่ครอบครองธนาคารกลางที่แรกๆ แห่งหนเข้าไปสนทนาเกี่ยวพันหลักสิ่งของสกุลสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากงานโหมโรงล่าสุดสิ่งของ Libra เพราะว่า Facebook จักดำรงฐานะก้าวใหม่สรรพสิ่งหุ้นส่วนที่จะเข้าสู่การบริการด้านการคลังออนไลน์ เพราะว่าจากรายงานของ Facebook เจาะจงว่า Libra จะสามารถใช้ได้แน่ๆกับเข้าอยู่ในงานครอบครองเงินออมสรรพสิ่งแบงค์ อีกทั้งมีกรรมสิทธิ์งานสอดส่องดูแลขนมจากหน่วยงานราชการเพื่อทำเอาสกุลทรัพย์สมบัติมีความมั่นคงด้วยกันใช้ในที่การลงทุนกับชำระคว้า ด้วยผลรวมผู้ใช้ Facebook หลายเลี่ยนมนุชกับความร่วมแรงร่วมใจจากกงสียักษ์ใหญ่ปีกการวางเงินอย่าง Visa คาดตวาด Libra จะมีศักยภาพเมื่อเพราะใช้คืนแห่งการทำธุรกรรมทางการเงินและขยายงานเข้าถึงธนาคาร จะอย่างไรก็ตามองค์การกำกับสอดส่องดูแลทั่วโลกยังคงประหยัดคำการใช้งานถัดจาก แหลมทองรวมความว่าเอ็ดแห่งโคนสำคัญของ Facebook ในที่ทวีปเอเชีย เธอสิริบุตรี กราบวัน ใน จังหวัดอยุธยา กล่าวทำให้ดีขึ้นว่า “คุณประโยชน์และความเสี่ยงสิ่งของผู้ใช้งานวงศ์เงินตราดิจิทิลคือว่าความหลักที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทยสนใจ อีฉันจะกระทำการศึกษาหนทางของวงศ์สกุลเงินตรา กลไก ด้วยกันความปลอดภัย เพื่อที่จะพิทักษ์ผู้ใช้งานแม้ก่อกำเนิดปัญหาขึ้น” นอกจากนี้ธนาคารชาติคว้ารวมหัวกับธนาคารกลางในถิ่นอื่น ๆ ในการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินนวชาตและก่อสร้างแพลตแบบฟอร์มสำหรับชดใช้รวมหัว การช่วยกันดังที่กล่าวมาแล้วจะช่วยลดความลำบากในงานก่อธุรกรรมทางการเงินกับสร้างเสริมสวัสดีเพื่อซ้อมซักเกี่ยวกับวงศ์สกุลสินทรัพย์นวชาตรวมทั้งความกระทบกระเทือนที่อาจมีขึ้นกับแบงค์ทั่วโลก ภายใต้ความร่วมมือระดับทวิภาคีในที่การวางเงินพร้อมด้วย QR code อีกตลอดในที่ตอนนี้ ไทยความแข็งแรงปฏิรูปบริการงานจ่ายเงินข้ามด้าวกับแดนเขมรซึ่งเก็งว่าจักปฏิบัติการในพรรษานี้ ด้วยกันบริการนี้ได้มายกขึ้นใช้แล้วระหว่างชาติประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ด้วยกันประเทศสิงคโปร์ “ไม่ได้มีการกำทีหนารอบยุคแห่งหนชัดแจ๋วแห่งในเวลานี้สำหรับงานให้บริการทั่วรวมหมดเขต ทว่าขึ้นอยู่ความพร้อมของแต่ละประเทศ ชนิดปัจจัยต่างๆ สรรพสิ่งเศรษฐกิจแห่งปีกความประพฤติทางการเงินสรรพสิ่งผู้ใช้, การพัฒนาเศรษฐกิจ, ระบบนิเวศ, หลักเกณฑ์กับข้อบังคับเพราะฉะนี้เลี่ยนจักค่อยๆมีกรรมสิทธิ์การพัฒนา” คุณมิ่งขวัญบุตรี วันทากลางวัน ในที่ พระนครศรีอยุธยา กล่าว ธนาคารแห่งประเทศไทยมีแผนที่จะอนุญาตแบ่งออกสถาบันการเงินนำเสนอ e-Know Your Customer (e-KYC) เพราะใช้เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์ในที่การเปิดบัญชีเงินออมใหม่ในที่ดวงจันทร์ตรงนี้ โดยจะประกอบด้วยการโหมโรงบริการดังที่กล่าวมาแล้วสถานที่กิจธุระ Bangkok Fintech Fair ในที่วันที่ 18 กรกฎาคม 2019 คำอธิบายเพิ่มเติม: Bangkokpost NewsLibraFacebookธนาคารแห่งประเทศไทย